“คิวบา” ประเทศที่เหมือนนั่งไทม์แมชชีนโดราเอม่อน ย้อนไปในอดีต ต้องบอกว่าเอาจริงๆตอนนี้ เทรนการโหยหาอดีตกำลังมา และนี่คือ 1 ในประเทศที่เราจะได้เห็น รถยนต์คลาสสิค วิ่งเต็มบ้านเต็มเมืองจนเป็นจุดขายไปแล้ว ประเทศที่เราช่างมันไม่เล่นเน็ตก็ได้ ประเทศที่คนทุกที่ใจดีอย่างกับเป็นญาติเราหลังจากไปมาก็ต้องว่าคิวบาเป็นอีกที่ ที่ควรมาสักครั้งก่อนตายแน่นอน
แต่สิ่งที่เราต้องรู้ก่อนไปเลยก็คือ!!
– คิวบาเป็น 1 ใน 5 ประเทศที่ยังใช้ระบบคอมมิวนิสต์อยู่ เช่นเดียวกับ จีน ลาว เวียดนาม ส่วนเกาหลีเหนือก็จะมีรายละเอียดที่แตกต่างไปอีก
– คิวบาในโซนเมืองเก่า Old Havana คือสวยมากกกกกก ถ่ายรูปได้ทุกมุมเหมือนย้อนเวลาของจริง
– รถคลาสสิคที่นี่มีทั้ง Taxi และให้เช่าขับเอง โดยเฉพาะเปิดประทุนนี่อย่างเท่ !!
– การเดินทางระหว่างเมืองที่นี่ ทำได้หลายวิธี เหมาTaxi หารถบัส และ เช่ารถขับเอง แต่จากที่เราไปมา น่าเช่ารถขับเองมากกกก ถนนอย่างโล่ง ส่วนแผนที่ก็โหลดแอพ Map.me ไว้แบบ Offline เพราะเน็ตในมือถือไม่มี
– ค่าเงินที่นี่ เค้าจะแยกเป็น 2 สกุลเงินคือ CUC สำหรับนักท่องเที่ยว และ คนคิวบาจริงๆจะใช้ CUP คือเค้าทำแยกกันเลย
– เรื่อง Internet เพื่อให้เข้าถึงการย้อนเวลาอย่างแท้ทรู การใช้ internet ที่นี่ไม่มีให้ใช้เป็นซิมแบบประเทศอื่นนะ อันนี้คือต้องไปซื้อบัตร wifi แล้วใช้เหรียญขูด เหมือนสมัยก่อนที่เราไปซื้อบัตรโทรศัพท์ โดยที่นี่มี Internet ยี่ห้อเดียวคือ ETECSA คือสามารถไปซื้อได้ที่ร้าน ETECSA ในราคา 1 CUC ต่อ 1 ชม.และ 5 CUC ต่อ 5 ชม. แต่แถวยาวมาก รอนานมาก เพราะใครๆที่นี่ก็ต้องการ แถวยาวยังกับต่อแถวรับถุงยังชีพช่วงน้ำท่วมยังไงอย่างงั้น จึงทำให้มีกำเนิดเป็นธุรกิจซ้อนขึ้นมา คือมีชาวบ้านเอามาขายเองเช่นกัน แต่ราคาจะแพงขึ้นเป็น 2 cuc และ 10 cuc แทน แต่ถ้าซื้อที่โรงแรมก็จะเพิ่มเข้าไปอีกเป็น 3 cuc และ 15 cuc ตามลำดับ ส่วนตัวแนะนำว่าซื้อกับชาวบ้านไปเลยง่ายกว่าเยอะไม่เสียเวลา และที่พีคกว่านั้นทุกท่าน เน็ตไม่ใช่ว่าอยากเล่นตรงไหนก็ได้เล่นนะ เพราะ WIFI มีแค่บางที่ โอ้แม่เจ้า ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนจะจีบสาวต้องรีบกลับไปบ้านไป ออน MSN เลยทีเดียว ส่วนบริเวณที่มี WIFI ส่วนใหญ่คือสวนสาธารณะทั่วไป หรือ Lobby โรงแรมระดับ 4-5 ดาว วิธีสังเกตุง่ายๆก็คือ ตรงสวนไหนที่มีสังคมก้มหน้าเยอะๆก็ตรงนั้นแหละเธอ
– ผู้คนที่นี่จะบอกว่า น่ารักมากใจดีกับนักท่องเที่ยวสุดๆ และที่สำคัญปลอดภัยมาก ไปแรกๆอาจจะเกร็งๆเหมือนคนนั่งรวมตัวอะไรกันตามหน้าบ้าน แต่พออยู่ไปซักพักจะรู้ว่าที่นี่มีแต่คนนน่ารัก มีมาขายของเราบ้างแต่ถ้าปฎิเสธก็จะไปทันที ไม่ค่อยตื้อให้เหนื่อยเท่าไหร่ เรียกว่าเที่ยวแบบสบายใจได้มากๆ และภาษาที่ผู้คนที่นี่ใช้คือภาษาสเปน แต่ก็จะมีบ้างที่พูดภาษาอังกฤษได้ อย่างเจ้าของที่พักเราเธอพูดอังกฤษไม่คล่อง แต่ก็พยายามมากๆ มากจน 1 ชม.แล้วยังไม่เข้าใจกันเลยเว่ยยย แต่คนที่นี่น่ารักคอนเฟิร์ม ไม่เป็นภัยต่อชีวิต และเป็นมิตรกับนักเดินทาง
– อาหารการกิน ส่วนใหญ่ที่นี่ทุกร้านจะขายเหมือนๆกัน เป็นแบบ สเต็กหมู วัว ไก่ และ พวกอาหารทะเล สั่งล็อปสเตอร์มากิน 3 ร้าน เค็ม 3 ร้าน เค็มมากเหมือนยากบอกว่าสดจากท้องทะเลเลยนะเธอ เหมือนกินทะเลเข้าไปด้วย ราคาก็ไม่ได้ถูกนะ 10 cuc อัพ แต่ถ้าเป็นแถวต่างจังหวัด ราคาจะถูกลงหาร 2 เหลือ 5 cuc ถูกกว่าครึ่งๆ รสชาติก็ดีบ้าง เฉยบ้างเพราะฉะนั้นใครอยากอยู่แบบมีความสุขจงเตรียม ปลากระป๋อง มาม่า น้ำพริกบ้านเราไป ให้ครบครัน
– visa สำหรับการเข้าคิวบานั้น เราสามารถซื้อ tourist card ได้เลยโดยไม่ต้องทำวีซ่าไปก่อนก็ได้
โดยปรกติบินสายการบินไหน ก็ซื้อกับสายการบินนั้นได้เลย โดยบัตรสีเขียวจะราคา 25$ ถ้าบินเข้าจากประเทศอื่นๆ แต่ถ้าบินเข้าจาก USA จะเป็นบัตรสีชมพู ราคา50$ ยกเว้นสายการบิน united จะราคา75$ American airline 85$ โคตรแพง อยู่ได้ 30 วัน
เอาเป็นว่าใครอยากไป คิวบา ต้องรีบไป เพราะตอนนี้เพิ่งเปิดประเทศไม่นาน คิดว่าอีกสักพักอะไรๆมันต้องเปลี่ยนไปเยอะแน่ๆ สำหรับแพลนของเราคือเดินทางจาก Miami มาลง Havana และมาอยู่ที่นี่ 7 วันHavana 2 วัน – Vinales 1 วัน – Cienfugos 1 วัน – Trinidad ( ไม่ได้ไปเนื่องจาก พายุเข้าน้ำท่วม ) – Havana และคือการผจญภัยที่เป็นการผจญภัยจริงและคือประเทศ คิวบา
Welcome to Havana
สภาพสนามบิน หน้าตาแบบใช้มาแรมปี
Havana ooh na na เป็นเมืองหลวงของประเทศคิวบา เป็นเมืองใหญ่ที่สุดในแถบแคริบเบียน เป็นเมืองท่าที่สำคัญที่สุด เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของคิวบาอีกด้วย และต้องบอกว่ามาถึงก็เจอแจ็คพ็อตแตกเลยจ้า ถ้าซื้อหวยก็คือถูกรางวัลเลขท้าย 3 ตัว เพราะที่นี่ไม่ให้เอา Drone เข้า ซึ่งจริงๆก็พอรู้อยู่แล้วแหละ เพราะก่อนหน้านี้ไปไมอามี่มาเลยต้องเอามาด้วย แต่ที่บอกว่ามันแจ็คพ็อคเพราะการจะต้องฝากโดรนไว้ที่นี่ ยุ่งยากมากให้ตายเถอะ เราเสียเวลานั่งรอในการทำเอกสาร 3 ชม. !! ใช่แล้วคือเสียเวลามากเพราะที่นี่เขียนเอกสารแบบ อนาล็อคมาก รอจนรากงอกเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นคนอื่นถ้าจะมาอย่าเอาโดรนมาเด้อ
ตรงจุดนี้เราสามารถแลกเงินได้ ซึ่งเงินเราต้องเอาเงิน USD มาแลกให้เป็นเงิน cuc
จากนั้นเราก็จัด Taxi เข้าตัวเมือง Havana ราคาก็ 30 cuc ชิวๆ
เมื่อเข้ามาบริเวณตัวเมืองคุณก็จะเริ่มเห็นว่า โอ้แม่เจ้า นี่ฉันย้อนยุคมาหรือนี่ทั้งสวยและคลาสสิคมาก
ตรงที่เราพักเป็น Casa จองผ่าน Airbnb ซึ่งตรงนี้วิวดีมากอยู่ตรงห้าแยกลาดพร้าวพอดี แฮร่ ไม่ใช่เป็นมุมเดียวในเมืองเก่าที่เป็นห้าแยก ที่พักนี้ชื่อ ชื่อ Apartment Chacon 201
หน้าที่พักเรา สักเกตุอย่างนึงว่าบ้านหรือทุกๆสถนที่ใน คิวบา จะเพดานสูงหมดเลย ประตูก็สูง
เปิดหน้าต่างออกไปก็จะเห็นวิวนี้
นี่คือวิวที่บอกมองออกไปคือชิวมาก
บรรยากาศในห้องพัก เวลาเปิดหน้าต่างหมด
มื้อแรกก็กินข้างๆที่พักเลย ราคาอาหารที่นี่เรียกได้ว่า พอๆกับที่อเมริกาเลย ไม่ได้ถูก และ ก็ไม่ได้อร่อยเท่าไหร่ มีดีบ้าง ไม่ดีบ้าง แต่กุ้งล็อปสเตอร์ที่นี่คือทำเค็มมาก กินไป 3 ร้านเค็มทุกร้าน ส่วนเครื่องดื่มประจำคิวบาคือ Mojito เป็น Cocktail ที่ผักใบๆอยู่ข้างในนี่แหละ แต่ที่นี่คืออร่อยมาก
หน้าตาน่ากินรสชาติโอเค แต่กุ้งเค็มมาก
อีกธรรมเนียมที่น่ารักของที่นี่ เวลาเค้าเห็นสาวๆมากินอาหาร ถ้าร้านดีๆหน่อย เค้าจะชอบให้ดอกไม้นี้กับสาวๆด้วย
เดินเล่นในเมืองความบันเทิงก็มาทันที โดยเฉพาะพวกร้านที่เล่นดนตรีสด จะบอกว่าสนุกมาก คนที่นี่เป็นมิตรน่ารักและเค้าดูเอ็นจอยมาก
ส่วนพ่อหนุ่มคนนี้เดินเข้ามาหาเราและก็บอกว่าถ่ายรูปฉันหน่อย แหมเก็กหล่อซะด้วย
อาเฮียคนนี้เอา wifi card มาขาย ราคา 1 ชม 2 cuc แพงกว่าร้านปกติเท่านึง แต่แลกกับการไม่ต้องไปต่อคิว (เตือนก่อนว่า ถ้าไปต่อคิวซื้อไวไฟที่นี่นานมาก เพราะใครๆก็อยากซื้อและดันมีอยู่แค่ร้านเดียว)
เรามาลอง Street Food ของจริงกันบ้าง เป็นคล้ายๆคุกกี้เสี่ยงทาย แฮร่ ไแต่ม่ใช่คุกกี้ ด้านบนเป็นเหมือนมะเขือเทศ รสชาติพอได้ อ่อพอกินได้ ป่าว พอได้กินก็เอาไปทิ้งเลย 555 จริงๆก็ไม่แย่หรอก คือไม่อยากตัดสิน เพราะมันคงอร่อยของเค้า แต่สำหรับเราคือไม่ผ่าน
ถ้าตามเมืองจะเจอสาวๆ แต่งแบบนี้ บางคนนี่แต่งเต็มมากนะ แต่อันนั้นคือเหมือนเค้าแต่งให้นักท่องเที่ยวไว้ถ่ายรูปกัน
มาถึงอีกจุดนึง ตรงนี้เหมือนสถานที่นัดรวมตัวรถคลาสสิคของที่นี่ มาถ่ายรูปตรงนี้ก็สวยมาก หรือจะเช่ารถให้เค้าพาทัวร์ก็ได้
รถม้าก็มีให้นั่งนะ ไม่ได้มีแค่นี้
ตอนดึกๆจะมีร้านที่อยู่ชั้น2 จะมีพนักงานคอยมาเรียกเราให้ขึ้นก็บรรยากาศถือว่าโอเคเลยสบายๆ
มื้อนี้ถือว่าโอเคนะ อันนี้คือหมูทอดคือกินง่ายอยู่
กาแฟจะรวมอยู่ในเซ็ทเรียบร้อยแล้ว
ราคา 36 cuc ตกประมาณ 1000 กว่าบาท ต่อ 2คนต่อมื้อ
วันนี้เรายังคงอยู่ใน ฮาวานา อีกอันนึงที่น่ารักมากๆคือรถ Taxi จิ๋วคันนี้ อันนี้คงคล้ายตุ๊กๆบ้านเรา
ร้านอาหารแทบทุกที่ นั่งไปสักพักก็จะมีวง Trio แบบนี้มาเล่นดนตรีให้ฟังพอจบก็ใส่เงินให้เค้าไปตามมารยาท
หน้าตา Wifi card หาสัญญาณได้ตาม โรงแรม4-5 ดาว และ สวนสาธารณะ บางที่
ในตัวเมืองก็จะมีโบสถ์
Welcome To the Jungle Vinales
วันนี้เราซื้อ One day trip เพื่ออกมาเมืองที่ชื่อ Vinales ซึ่งถูกบันทึกให้เป็นมรดกโลกขององค์การ UNESCO ที่นี่สวยมากเป็นป่าที่ดูแปลกตา มีไร่ปลุกซิก้าที่ถือว่ามีชื่อเสียงที่สุดโลกเลยทีเดียว และที่สำคัญคือมีความเป็นธรรมชาติอยู่สูงมาก
มาถึงคนขับจะพาเรามาจอด ตรงจุดชมวิวก่อนซึ่งต้องบอกว่าสวยงามมากจริงๆ เป็นป่าแบบเหมือนหลุดมาจาก
จูราสสิคพาร์คเลย
และมาต่อที่นี่ ที่นี่เรียกว่า Mural de la Prehistoria ถูกวาดขึ้นทั้งหมดโดยการเล่าเรื่องตั้งแต่สมัย กำเนิดโลก ยันมี มนุษย์กำเนิดขึ้นมายังโลกใบนี้เลย
และไกด์ของเราก็พามาที่ฟาร์มปลูกซิก้า ต้องบอกว่ากว่าจะมาเป็นซิก้าแบบที่เราเห็นนี่ผ่านขั้นตอนการผลิตถึง 2 ถึง 4 ปีเลยนะ ทั้งปลูกวัตถุดิบจนนำมาแปลเปลี่ยนเป็นซิก้า
หน้าตาใบตอนที่ตากแห้งเสร็จหมดแล้ว
ออกมาเป็น Package ราคา 20 cuc
และก็มาดูโรงงานคัดแยก ตัวใบกับก้านโดยให้สาวๆที่นี่เป็นคนคัดแยกให้
นี่คือโกดังที่เก็บหลังจากคัดแยกแล้ว
มาดูมื้อนี้เรียกได้ว่า โลคอลของจริง แต่ละเมนูเรียกได้ว่าไม่เคยกินมาก่อนเลย รสชาติไม่ได้ถูกปากแต่ก็กินได้ไม่ได้ยากมากสำหรับเรา
หลังจากนั้นเราก็จะมาเยี่ยมชมถ้ำอินเดียต้องบอกว่า ที่คิวบานั้นไม่มีชาวท้องถิ่นจริงๆ ไกด์เล่าว่าคนท้องถิ่นโดนสังหารไปหมดแล้วตั้งแต่ที่สมัยสเปนล่าอาณาานิคม
ในถ้ำจะมีเรือมารับเพื่อไปออกอีกทางด้านนึงด้วย
ระหว่างทางก็จะมีการอธิบายจุดต่างๆของถ้ำว่ารูปอะไรบ้าง อย่างอันนี้ก็เป็นรูปกระโหลก
พอออกมาพ้นถ้ำก็จะมาอยู่อีกฝั่งช่างสวยงามยิ่งนัก
ตรงจุดนี้คือร้านอาหารที่เอาถ้ำใต้ภูเขามาสร้างเลย ที่สำคัญคือ WIFI ตรงนี้แรงมากๆ
มีให้ขี่ม้าด้วยแต่เราไม่ได้ขี่ เนื่องจากเวลาน้อยมาก
Welcome To Cienfugos
นี่คือเมืองทีอยู่ทางฝั่งตะวันตกมาจากฮาวานา เอาตรงๆเมืองนี้เงียบมากเหมาะแก่การมาอยู่เงียบๆถ้าว่ามีอะไรมั้ยก็ไม่ค่อยจะมีอะไรเลย เพราะจริงๆที่เค้าบอกว่าสวยคือ Trinidad ซึ่งเป็นเมืองเลยที่นี่ออกไปอีก แต่เนื่องจากช่วงเราไปมีพายุเข้า ทำให้อีกวันถนนโดนตัดขาดไปต่อก็ไม่ได้ เดินทางกลับก็ไม่ได้ทำให้เราเกือบตกเครื่องบินกลับ ไมอามี่ด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นแนะนำถ้าไป อย่าไปหน้าฝนเด็ดขาดเดี๋ยว จะเที่ยวไม่สนุก เพราะเราไปเดือน พฤษภาคม เป็นเดือนที่พายุเข้าเลยจ้า
ที่พักของเราที่นี่ ราคาคืนละ 3000 บาทน่ารักมากมีน้องหมา 1 ตัวคอยต้อนรับเราด้วย ที่พักชื่อ Casa Buenavista
เงียบยังกับคนอพยพไปหมดแล้วเด้อ
ความบันเทิงเล็กๆน้อยๆ
อาหารเช้าจากที่พักของเราจ้า
วันนี้ดีใจแดดออกอย่างน้อยก็ได้ถ่ายรูปบ้าง
ที่นี่จะมีรถม้าให้ เราก็นั่งไปงั้นแหละเพราะไม่ค่อยมีอะไรให้ทำเท่าไหร่ที่นี่
ที่นี่คือร้านอาหารและด้านบนจะเห็นวิวทะเล แต่จะมีเก็บค่าขึ้นด้วยและสามารถเอาไปแลกเครื่องดื่มได้
วิวจากด้านบน
Mojito อีกแล้วครับท่าน
Lobster ยังคง Concept เค็มเหมือนเดิม ทำไมน้อ??
ตรงนี้น่าจะเป็นจุดแหลมสุดที่ยื่นออกไปในทะเลละ
สุดท้ายความบันเทิง ของเราจบด้วยการนั่งจักรยานปั่นพร้อมเปิดเพลง แดนซ์ไปเรื่อยๆตลอดทาง
กลับมาทีพักพร้อมเจอเจ้า เพลตี้ และติดอยู่ที่นี่ 3 คืน เพราะน้ำท่วมไม่สามารถไปไหนได้
สรุปว่า ทริปนี้อาจจะผิดแผนเยอะมาก แต่ผมก็ยังยืนยันว่าคิวบา เป็นประเทศที่ต้องไปซักครั้งอยู่ดี และควรรีบไปเร็วๆนี้ด้วย เพราะคิดว่าอะไรหลายๆอย่างในประเทศน่าจะกำลังจะเปลี่ยนเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว ลองไปใช้ชีวิตแบบไม่ค่อยมีเน็ตดู อยู่ในเมืองที่ปลอดภัย ผู้คนใจดี และที่สำคัญอย่าไปหน้าฝน เดี๋ยวน้ำท่วมอีกนะ ถ้าถามว่าจะกลับไปอีกมั้ยผมตอบตรงเลยละกันของอย่างนี้ต้องมีแก้มือ