จันทบุรี ขับรถชิวๆ ชมสุดยอดวิว ใกล้ๆจากกรุงเทพ [Chanthaburi]

0
17842

ฮัลโหลลลลลลลล ทุกคน ถ้ามีเวลาว่างแค่ 2วัน แต่อยากไปเที่ยวต่างจังหวัดที่ใกล้กรุงเทพฯ ทุกคนจะนึกถึงที่ไหนกันบ้าง ตอนนี้ทุกคนคงมีจังหวัดเยอะแยะมากมายในหัว แต่จะมีกี่คนที่นึกถึงจังหวัดจันทบุรีฮิ ไม่ใช่สิ นั่นมันระยอง ฮ่าๆ เคยได้ยินมาว่าที่นี่มีถนนเลียบทะเลที่สวยที่สุดในภาคตะวันออก จะสวยจริงมั้ย เราต้องไปพิสูจน์ให้เห็นกับหู เอ้ย มันต้องให้เห็นกับตาสิ ป้ะ พร้อมไปเที่ยวด้วยกันยัง ถ้าพร้อมแล้ว ตามไปเที่ยวกันเลยจ้าาาาาา

สรุปค่าใช้จ่าย 2 วัน1คืน (22/01/2561-23/01/2561)
รวม 8,313 บาท 5คน ตกคนละ 1,663 บาท
– ค่าห้อง (คิดเป็นหัว หัวละ 800บาท) 5 คน 4,000 บาท
– ค่าทางด่วน ไป-กลับ จันทบุรี 185 บาท
– ค่าอาหาร + เครื่องดื่ม จิปาถะ 1,875 +743 = 2618 บาท
– ค่าเข้าน้ำตก+ค่าจอดรถ+ค่ารถกอล์ฟ = 280 บาท
– ค่าน้ำมัน 600+630 = 1,230 บาท (น้ำมันยังเหลือประมาณครึ่งถัง)

Day1

          เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯตั้งแต่เช้า ด้วยรถ Suzuki ciaz RS ไปกัน 5คน แต่รถนั่งสบายไม่อึดอัด นอนกันไปยาวๆเลยจ้า จากกรุงเทพฯถึงจันทบุรี เราใช้เวลาเดินทางประมาณ 3ชั่วโมงครึ่ง ถึงบ่ายโมงพอดี กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ดังนั้นเราต้องกินก่อนค่ะ เราเลือกร้านครัวแม่แดงซีฟู๊ด ร้านอยู่ใกล้จุดชมวิวเนินนางพญา เราสั่งกันคนละอย่าง ปู กุ้ง ปลา ปลาหมึกมาหมด ขาดแต่เมนูหอยเท่านั้น นั่งคุยกันสักพัก อาหารก็มา บอกเลยน่ากินทุกอย่าง และไม่ผิดหวังฮะ อร่อยทุกอย่างเลย เยี่ยมจริงๆ คอนเฟริม ถ้าใครมาจุดชมวิวเนินนางพญา ก็แวะมากินร้านนี้กัน แนะนำเลย พอกินเสร็จ ถึงเวลาจ่ายตัง สรุปค่าเสียหายทั้งหมด 5อย่าง1,050 บาท ก็ไม่แพงนะ ใช้ได้ๆ

รถเท่ๆ เหมาะกับคนเท่ๆแบบเรา

มี GPS มาให้ด้วย

เจ้าของร้านครัวแม่แดงซีฟู๊ด

          หลังจากนั้นเราก็ไปจุดชมวิวเนินนางพญาซึ่งเป็นจุดไฮไลท์ เขาว่ากันว่าที่นี่ คือdream destination ต้องมาให้ได้สักครั้ง! เหยยยยยยย มันสวยจริงๆ อย่างที่ใครใครบอกไว้ เป็นถนนเลียบชายหาดที่ยาวที่สุดในภาคตะวันออก หลังจากเดินเล่น ถ่ายรูปกันสักพัก ได้รูปสวยอย่างที่ต้องการ เราก็ไปที่ต่อไปกัน

เนินนางพญา ถนนสวยจริงๆ

          เราก็แวะไปที่จุดชมวิวเจดีย์บ้านหัวแหลม เป็นเจดีย์สีขาวที่อยู่กลางน้ำและมีสะพานไม้ที่ทอดยาวลงไปในทะเล ตัวเจดีย์มีอายุมากว่า 200ปี สร้างเพื่อใช้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวประมง ใช้กราบไหว้ก่อนออกเรือเพื่อให้แคล้วคลาดปลอดภัย ที่นี่เปิดตั้งแต่ตี5ถึง2ทุ่ม เหมาะกับมาดูพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก สวยมาก ชิวดี ถ้ามาจุดชมวิวเนินนางพญาแล้ว มาที่นี่อีกก็ไม่เสียหายนะฮะ เพราะอยู่ใกล้ๆกันนิดเดียว

ชิวสุดสุด

เจดีย์บ้านหัวแหลม

          หลังจากถ่ายรูปเสร็จ เราเดินทางไป อ่าวคุ้งกระเบนต่อ อ่าวคุ้งกระเบนเป็นโครงการป่าชายเลนที่เกิดจากความต้องการของในหลวงรัชการที่9 ที่ให้อนุรักษ์ที่นี่เป็นแบบยั่งยืน ใช้ระบบนิเวศน์บำบัดน้ำเสีย ใช้ป่าโกงกางทำความสะอาดน้ำ เป็นที่อนุบาลสัตว์น้ำจำนวนมาก ที่นี่สวย ร่มรื่นมาก ถ่ายรูปมายังไงก็ดูดี เหมือนอยู่ต่างประเทศ ถ้าใครชอบถ่ายรูป แนะนำให้มา มุมสวยๆเยอะ สวย สงบ เหมาะแก่การมาพักผ่อนอย่างสูง ชิวสุด

ถ่ายรูปออกมาแล้วเท่มาก

แค่ทางเดินไม้ ก็ยังสวย

มีแต่มุมสวยๆ

          หลังจากนั้นเราเดินทางกลับที่พัก ก่อนกลับที่พักเราก็แวะเติมน้ำมันกันอีกสักรอบ ที่พักของเราเป็นแบบโฮมสเตย์ คิดเป็นหัวหัวละ 800 บาท รวมอาหารเย็นและอาหารเช้า น้ำเปล่า น้ำแข็ง น้ำอัญชัน ผลไม้ตามฤดูกาล และที่พีคที่สุด ที่พักเราอยู่ติดน้ำตกนะจ้ะ! ได้ยินไม่ผิด น้ำตกจริงๆ ได้ยินเสียงน้ำตกตลอดเวลา อากาศเย็นสบาย สดชื่นมากมาก ที่พักของเราชื่อว่า สวนพฤกษาโฮมสเตย์ ถ้าใครชอบเงียบๆอยู่กับธรรมชาติ แนะนำที่นี่เลย อากาศดีจริงๆ เหมาะแก่การพักผ่อนที่หนีความวุ่นวายจากกรุงเทพฯ พอเราไปถึงเขาก็เตรียมอาหารเย็นไว้ให้ อาหารเย็นไม่ใช่บุฟเฟ่ต์ แต่เราสามารถเติมได้ตลอด โห้ววววว เติมได้ ดีจริงๆ หลังจากกินข้าวเสร็จ เราก็นั่งคุยชิวๆกันต่อไป หมดไป 1วัน

Day2

          ตื่นเช้ามา ทางที่พักได้เตรียมอาหารเช้าไว้ให้เราเรียบร้อยแล้ว( สบายจริงเชียว ) เป็นข้าวต้มหมูกุ้ง และขนมปัง กาแฟ โอวัลติน หลังจากกินเสร็จ เราก็เดินเล่นแถวที่พัก ที่พักมีสะพานไม้ยาวให้เราได้ถ่ายรูปแบบเท่ๆ มีน้ำตก 2สาย มีที่ถ่ายรูปสวยๆเยอะอยู่เหมือนกันนะ ใครหาที่พักแบบนี้อยู่ มาเลยจ้า ที่นี่ ตอบโจทย์คนที่ชอบความสงบเงียบอยู่ในธรรมชาติ

เดินจากห้องนอนมาน้ำตกแค่ 10ก้าว เท่านั้น!

คูลมากมาก

          หลังจากเช็คเอ้าท์ เราเดินทางไปชุมชนริมน้ำจันทบูร เป็นชุมชนเก่าแก่กว่า 300 ปี เริ่มก่อตั้งตั้งแต่สมัยพระนารายณ์ถึงรัชการที่ 5 เป็นศูนย์กลางการค้าขายที่สำคัญของจ.จันทบุรี

ตัวตึกยังคงความเก่าเอาไว้ ถ่ายรูปออกมามันจะอาร์ตๆหน่อย

ที่นี่มีกำแพงแบบนี้เยอะมาก ถ้าใครชอบแนวสตรีท แนะนำให้มา

          ตอนที่เรามาถึงเป็นตอนเที่ยงพอดี ดังนั้นเราเลยหาร้านข้าวก่อนเลย ร้านที่มีคนแนะนำเยอะมากมาก ดูจากหลายเพจ ฮ่าๆ ชื่อว่าร้านเจ๊อี๊ดริมน้ำ เป็นร้านที่มีทั้งกุ้ง กั้ง ปู ปลาหมึก มีทั้งที่เป็นก๊วยเตี๋ยวและข้าว นอกจากซีฟู้ด ยังมีบะหมี่หมูแดงที่อร่อย หมูนุ่มมากมากอีกด้วย ร้านนี้อร่อยมากจริงๆฮะ อร่อยทุกอย่าง ก๊วยเตี๋ยวต้มยำที่รสชาติเข้มข้น ข้าวเจ้าสมุทรที่มาพร้อมกับน้ำจิ้มซีฟู๊ดรสเด็ด ต้องมาๆ หลังจากกินอิ่ม ก็อยากนอน ไม่ใช่สิ มาชุมชนเก่า ที่ถ่ายรูปแบบอาร์ตๆเยอะมาก เราต้องเดินเล่นและถ่ายรูปกันสิ ระหว่างเดิน(จนเมื่อย) เราเจอร้านกาแฟที่ทั้งร้านมีแต่ของเก่าตั้งแต่สมัยรุ่นปู่ย่า ทั้งโทรศัพท์ เทป เครื่องเล่นเพลง เห็นชิคดี เลยเลือกแวะนั่งชิวๆดื่มกาแฟริมน้ำกันที่ร้านนี้ นั่งไปสักพัก อากาศเริ่มครึ้มๆ เราเลยรีบไปน้ำตกพลิ้วกันเลยดีกว่า กลัวฝนตก

น้ำจิ้มแซ่บมาก บอกเลย 

น้ำต้มยำนี่ก็เข้มข้นมาก อร่อยทุกอย่างร้านนี้

ร้านกาแฟร้านนี้ รวบรวมของเก่าไว้เยอะมากๆ

ก่อนกลับไปที่รถ เราเดินผ่านร้านไอติมตราจรวด เป็นร้านที่ใช้เครื่องจักรผลิตไอติมเป็นเจ้าแรกในจังหวัดจันทบุรี ร้านนี้นอกจากมีไอติมแบบตัดแบบแท่ง ยังมีไอติมกระเบื้องที่แปลกไม่เหมือนใคร ไม่เคยกินที่ไหนและไม่เคยเห็นที่ไหนด้วย มันจะกรอบนอกนุ่มใน (นี่ไอติมหรือขนมปังที่เยาวราช) แต่ต้องลองนะ อร่อยดี แปลกดี

เรามาถึงน้ำตกพลิ้วตอนประมาณบ่าย3 แต่น้ำตกจะปิดตอน 5โมง ตายแล้วววว จะทันมั้ย เราเลยเลือกนั่งรถกอล์ฟเข้าไปที่น้ำตกเลย ทำเวลาสุดๆ ค่ารถคนละ 10บาท ค่าเข้าน้ำตกคนละ 40บาท ตอนแรกน้ำตกพลิ้วมีชื่อว่าน้ำตกเขาสระบาป แต่หัวหน้าอุทยานไปขอเปลี่ยนชื่อเนื่องจากน้ำตกมีความสวยงาม มีน้ำตลอดปี เลยมาเป็นน้ำตกพลิ้วอย่างที่ทุกคนรู้จักกัน จนทุกวันนี้ ตัวน้ำตกจะสูง 3ชั้น จุดเด่นของที่นี่คือจะมีปลาพลวงตัวใหญ่เบิ้มมาก ย้ำว่าใหญ่มาก! ว่ายกันเต็มไปหมด น่ากลัวอยู่นะ ฮ่าๆ ตัวใหญ่เกิน บ้าจริง! หลังจากถ่ายรูปและเล่นน้ำกันสักพัก เราก็เดินทางกลับกรุงเทพฯกัน เดี๋ยวจะถึงดึกเกินไป ระหว่างทางก็แวะปั๊มเปลี่ยนเสื้อผ้า ซื้อของกินระหว่างทาง และสุดท้ายเราก็ถึงกรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพ เย้

ตั๋วเข้าน้ำตกจ้า

เห็นปลามั้ย ตัวอย่างใหญ่ มันจะกินฉันมั้ยยย

น้ำเย็นสบาย เล่นน้ำไปพร้อมกับปลา

 โดนปลารุม ฮ่าๆ

          จันทบุรีเป็นอีกจังหวัดที่น่าไปพักผ่อน คลายความเครียดจากงานที่ทำ จากรถที่ติดในเมือง หลีกหนีความวุ่นวายจากกรุงเทพฯ มีเวลาแค่2วันเสาร์อาทิตย์ ก็ไปได้ น่าสนใจใช่มั้ย ป้ะ วางแพลนเลย โทรจองที่พัก ปิดคอม ปิดทีวี และหยิบกุญแจรถ สตาร์ทรถแล้วออกไปเที่ยวกัน!!!! แต่ถ้าอยากสบายตั้งแต่ออกเดินทาง ควรเลือกรถที่กว้างขวางนั่งสบาย มีแอร์ด้านหลัง เปิดให้เย็นชุ่มช่ำ ไม่ต้องง้อขอแอร์จากคนนั่งหน้า อิอิ พร้อมไปพักผ่อนๆ ให้เต็มที่และค่อยกลับมาทำงานที่เรารักกัน ^^

LEAVE A REPLY