ใกล้สิ้นปีเข้าไปทุกที เริ่มเข้าสู่ช่วงบรรยากาศแห่งความสุขกันแล้ว ผมเชื่อว่าการเติมเต็มความสุขของชีวิตคือการออกเดินทาง และประเทศที่มีที่เที่ยวให้เราเดินทางได้แบบไม่มีวันหมดคือประเทศจีนครับ ทริปนี้เราไปกันที่เมืองกวางเจา เมืองนี้มีครบทุกอย่าง กิน เที่ยว ช๊อป วัด ธรรมชาติ และความทันสมัย เอาเป็นว่าใครที่กลัวว่าไปจีนแล้วจะเจอความลำบากหรือห้องน้ำแบบที่ล่ำรือ ลองมาเมืองนี้แล้วความคิดคุณจะเปลี่ยนไป
#thaismileairways #บินตรงภูเก็ตกวางโจว #บินสบายแบบฟูลเซอร์วิส#ภูเก็ตกวางเจาเอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมทริปนี้เราบินจาก กรุงเทพ-ภูเก็ต-กวางเจา ของไทยสไมล์แอร์เวย์ ซึ่งเค้าเป็นสปอนเซอร์ ทั้ง บิน กิน นอน เรียกว่ามาแต่ตัวและหัวใจก็พอครับ โปรแกรมทริปนี้
Day 1 ภูเขาเหลียนฮัวซาน เจ้าแม่กวนอิม – เมืองโบราณจำลอง – กวางเจา ทาวเวอร์ – สวนดอกไม้กลางเมือง จตุรัสฮัวเฉิน – ล่องเรือแม่น้ำจูเจียงยามค่ำคืน
Day 2 อนุสาวรีย์ 5 แพะ – วัดลิ่วหยงซื่อ วัดไทร 6 ต้น – สวนอุทยานเป่าหม้อ –ละครสัตว์ “Chime-Long International Circus”
Day 3 ยอดเขา 9 ดอกบัว “จิ่วเหลียนเฟือง” – ช๊อปปิ้งที่ถนนซางเซี่ยจิ่ว – ถนนเป่ยจิงลู่
เริ่มต้นเราออกเดินทางจากสุวรรณภูมิเวลา 17.25 มาถึง ภูเก็ตประมาณ 18.45 เราก็ออกมากินข้าวที่ ร้านแหลมหินซีฟู๊ด กันก่อน แล้วก็กลับมาสนามบิน เพื่อต่อเครื่องไปกวางเจาเวลา 23.05 (สำหรับตรงนี้ใครที่ไหนๆก็มาภูเก็ตแล้ว ผมแนะนำให้อยู่เที่ยวภูเก็ตก่อนซัก 2 คืนแล้วค่อยบินต่อไปกวางเจาก็ดีนะครับ จริงๆรูทนี้เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนอยู่ภูเก็ตแล้วจะไปเที่ยวจีนต่อ คงเป็นรูทที่เพอร์เฟคมาก เพราะได้เที่ยวทั้งทะเลไทย และจีนไม่ต้องบินย้อนกลับไปขึ้นเครื่องที่กรุงเทพอีกด้วย ตอนนี้เวลา ตี 4 เรามาถึงสนามบินไป๋หยุน เมืองกวางเจาเป็นที่เรียบร้อย อากาศเย็นสบาย
สิ่งที่คุณต้องกินเวลามาประเทศจีน มันคือ ติ๋มซำครับ กินที่ไหนก็ได้อร่อยหมด กับติ๋มซำร้าน.. Diandoude ทีเด็ดของร้านนี้คือ ไอ้สีชมพูที่อยู่ตรงหน้าผมเนี่ยละ มันคือ เปาะเปี๊ยะไส้กุ้ง ที่อร่อยมาก ใครผ่านมาอย่าลืมสั่งนะครับ
ต่อด้วยภูเขาเหลียนฮัวซาน ที่มีเจ้าแม่กวนอิมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่นี่วิวสวยมากครับ กับใหญ่มากครับ เราเดินเสร็จเร็วเวลาเหลือ ไกด์เลยพาเราไปเที่ยวเมืองโบราณจำลองที่อยู่ติดกับวัดเจ้าแม่กวนอิมแถมให้ โชคดีจริงๆ ที่นี่มีเขาวงกตให้เล่นด้วย วิธีคือเข้าไปในเขาวงกตแล้วขึ้นไปบนปราสาทให้ได้ เพื่อบอกทางให้เพื่อนๆ เดินออกมา เอ๊ะ แล้วพอบอกทางคนอื่นหมดแล้วเราจะออกไปยังไงละ 555
มื้อที่สอง ร้าน..ยู่ ผิง เซียน Yupingxuan สำหรับที่ประเทศนี้การที่เราเห็นสัตว์แปลกๆอยู่หน้าร้านถือว่าเป็นเรื่องปกติครับ เพราะเค้ากินทุกอย่างจริงๆ!! แต่เราไม่ต้องกินตามเค้าทุกอย่างก็ได้ใช้มั้ย T-T” ร้านนี้อาหารอร่อยดีครับ
ผมหมายถึง ห่านย่าง ไก่นึ่งซีอิ้ว นะครับ
พอกินเสร็จเราก็ไปต่อกันที่ กวางเจาทาวเวอร์ หรือ แคนตันทาวเวอร์ ใครที่อยากเห็นวิวเมืองกวางเจาแบบชัดๆ สวยๆ ผมแนะนำที่นี่ครับ มาง่ายและเห็นทั่วถึงที่สุดละ ชั้นที่สูงที่สุดคือชั้น 108 ที่นี่สูงแค่ 433.2 เมตรเอง ค่าเข้าคนละ 150 หยวนครับ
ต่อด้วยไปแวะสวนดอกไม้กลางเมือง จตุรัสฮัวเฉินกันครับ ที่นี่ใกล้ๆกับ กวางเจาทาวเวอร์ ที่นี่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่นิวยอร์คเลย ดูเจริญและทันสมัยมากๆ แนะนำให้มาตอนเย็นๆครับ
ต่อด้วยมาล่องเรือชมไฟริมน้ำ ยามค่ำคืน ในแม่น้ำจูเจียง ค่าบัตร คนละ 68 หยวน ใช้เวลาประมาณ 45 นาที
ปิดท้ายรอบดึกกับร้าน Wumizhou เป็น น้ำข้าวต้ม ลวก หอย ไก่ ปลา ผัก กินกับก๋วยเตี๋ยวผัดแห้งกับปาท๋องโก๋ยักษ์ แปลกดีครับไม่เคยกินที่ไหนมาก่อน เรียกว่าพอถึงโรงแรมก็อิ่มหนำหลับฝันกันเลยทีเดียว 2 คืนแรกเรานอนกันที่ โรงแรม Crowne Plaza ครับ รร.ดีมากครับ
วันที่ 2 เริ่มออกเดินทาง 9 โมงเช้า ที่แรก คือ อนุสาวรีย์ 5 แพะ ที่นี่เหมือนสวนสาธารณะ ที่มีอนุสาวรีย์อยู่ด้านใน ระหว่างทางที่เดินเข้ามาก็จะเห็นคนรำไทเก็ก นั่งปิคนิค พักผ่อน พอเดินเข้ามาเรื่อยๆก็จะมาเจออนุสาวรีย์อันนี้ครับ
ต่อกันด้วย วัดลิ่วหยงซื่อ วัดไทร 6 ต้น มาถึงถิ่นเค้าแล้วก็มาไหว้พระขอพรซะหน่อย วัดสวยดี มีมุมสวยๆให้ถ่ายรูปเพียบครับ
เที่ยงนี้เรากินอาหารซีฟู๊ด กุ้งมังกร + อาหารทะเลครับ ใครมากวางเจาอย่าลืมกินอาหารทะเลซักมื้อนะครับ เพราะเมื่อก่อนกวางเจานั้นเป็นเมืองท่าเสรีเพียงแห่งเดียวที่ใหญ่ที่สุดทางตอนใต้ของประเทศจีนเลยนะเอ้อออ รับรองว่าของสดและถูกมาก แต่ต้องเลือกร้านดีๆนะครับ
ต่อด้วย สวนอุทยานเป่าหม้อ ที่นี่ใหญ่มากควรอยู่ประมาณ 2 ชม. แค่เข้ามาก็ตะลึงกับงานแกะสลักที่สวยมาก กับกำแพงศิลาแกะสลักยาวหลายสิบเมตร สำหรับคนที่ชอบสัตว์ ที่นี่มีทั้งบ่อเต่า บ่อปลาคราฟ 20,000 ตัว มีปลามังกรยักษ์ อยู่ตลอดทางเดินทั้งอุทยาน เรียกว่าอยากให้อาหารปลาตรงไหนก็ได้ แล้วเค้ามีกิจกรรมเจ๋งๆ คือให้คุณซื้อกล่องและกระชอนช้อนปลา เพื่อให้คุณช้อนลูกปลาคราฟในบ่อที่นี่กลับบ้านได้ด้วย โดยที่เค้ามีความเชื่อว่าปลสคราฟในบ่อนี้เป็นมังกรแปลงกายมาครับ เรียกได้ว่าถ้าคุณช้อนได้คุณจะได้ปลาคราฟเชื้อสายมังกรกลับไปเลี้ยงที่บ้านทีดียวเชียว แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่าบ่อมันใหญ่มาก แต่ไม้กระชอนสั้นจี๊ดเดียว ผมบอกเลยการจะช้อนได้นั้นไม่ได้ใช้แค่จังหวะและฝีมือนะครับ ดวงครับ ดวงล้วนๆ
พอเสร็จเราก็ไปเดินข้ามสะพานมังกรกัน ในนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์เปาปุ้นจิ้น มีหุ่นขี้ผึ้งเปาปุ้นจิ้น ห้องแสดงภาพวาดภู่กันย้อนยุค ห้องแสดงเครื่องเซรามิคย้อนยุค อายุหลายร้อยปี ที่นี่น่ามาครับ มาเดินเล่นให้อาหารปลา ถ่ายรูปก็คุ้มละ จะให้ดีผมแนะนำให้แต่งชุดจีนมาเลย แบบกี่เผ้า อะไรอย่างนี้จะเข้ามากกก
ทีเด็ดของวันนี้อยู่ที่ละครสัตว์ตอนเย็นครับ เรียกว่าเหนือความคาดหมายไปมากกกกกกก มากกกกกกกก จิงๆ กับ “Chime-Long International Circus” ทั้ง น่ารัก อลังการ หวาดเสียว เซ็กซี่ ตื่นเต้น เวลา 1.30 ชม ผ่านไปเร็วมาก เรียกว่าดูๆอยู่ อ่าวจบแล้วหรอ ขอดูอีกได้มั้ย แต่ตอนที่ดูอยู่ก็ลุ้นว่าพอเถอะ เสียวอย่าเล่นเลย เข้าใจผมมั้ยอะ คือต้องไปดูเองจริงๆครับ ค่าเข้าตกคนละ 400 หยวนครับ แต่โคตรคุ้มขอบคุณไทยสไมล์จริงๆที่พามาดูของดีแบบนี้คืนนี้กลับไปหลับอย่างมีความสุขเช่นเคย
เช้าวันที่ 3 ออกตอน 9 โมงเช้า วันนี้เราต้องเปลี่ยนโรงแรมแล้ว ลาก่อนนะ Crowne Plaza
ที่แรกเราไปกันที่ ยอดเขา 9 ดอกบัว จิ่ว เหลียน เฟือง เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในทั้งหมด 30 ภูเขา ในกวางเจา เริ่มต้นเราต้องขึ้นเคเบิ้ลคาร์ขึ้นไปด้านบนก่อนครับจริงวิวด้านบนสวยใช้ได้นะครับ แต่น่าเสียดายผมมาตอนเที่ยงกับวันที่ผมไปมันมีหมอกลงเลยมองไม่ค่อยเห็นอะไรเท่าไหร่ครับ ถ้าจะมาแนะนำให้มาดูพระอาทิตย์ตกตอนเย็นน่าจะดีกว่า
มื้อเที่ยงวันนี้ เรากินสุกี้กวางตุ้งกันครับ เป็นสุกี้น้ำข้นต้มรวมมิตรระหว่างขาห่าน เบคอน แฮม หมูกรอบและผักครับ รสชาติหวานๆเค็มๆ อร่อยไปอีกแบบครับ ตั้งแต่กินอาหารที่นี่มา อลังการงานสร้างทุกมื้อ เรียกว่าโต๊ะนึงนั่ง 10 คน แต่อาหารกินได้ 30 คน ไกด์จีนบอกผมว่า คอนเซปคนจีนคือ เลี้ยงแล้วต้องเลี้ยงให้เหลือ ห้ามขาด ผมละชอบจริงๆคอนเซปนี้
ต้นกำเนิดประโยคที่บอกว่า “อะไรอยู่ที่พื้น ยกเว้น มนุษย์ โต๊ะ เก้าอี้ กินหมด อะไรอยู่บนฟ้ายกเว้นเครื่องบิน กินหมด อะไรอยู่ในน้ำยกเว้นเรือดำน้ำกินหมด นั้นมาจากเมืองนี้ครับ ทางพี่ฉัตร ไกด์นำทางคนไทยของเราเล่าว่า ที่เมืองนี้มีเมนูเด็ดขึ้นชื่อของคนจีนอยู่ 3 เมนู หนูสามจี๊ด อัณฑะแพะ สมองลิง แค่ฟังชื่อก็ไม่อยากลองละ ส่วนใครที่อยากลองก็ไปหาลองดูนะครับ เป็นยังไงมาบอกผมด้วยนะ บรื๋ออออออออ
ปิดท้ายทริปนี้ด้วยการช๊อปปิ้งที่ถนนคนเดิน 2 แห่ง ที่แรกชื่อว่า ถนนซางเซี่ยจิ่ว ที่นี่จะออกเป็นถนนคนเดินแบบท้องถิ่น มี food street มีร้านขายของใช้ทั่วไปปนกับร้านอาหารและร้านขนม
ส่วนอีกที่นึงชื่อ ถนนเป่ยจิงลู่ ที่นี่จะทันสมัยขึ้นมาหน่อยครับ มีแบรนด์เสื้อผ้าและร้านอาหารที่เรารู้จักเยอะหน่อย และที่นี่เป็นสถานที่ยอดฮิตของหนุ่มสาวชาวกวางเจาเค้าชอบมาเดินเล่น นัดเจอกัน ทั้งสองแห่งนี้ไปง่ายครับมีรถไฟใต้ดินมาถึงได้ทั้งสองที่เลยครับ
พอเสร็จจากการช๊อปปิ้งทั้งสองที่เราก็ไปแวะทานข้าวเย็นกันที่ร้าน Hongkong Style Fine Food ร้านนี้โอเคครัย อร่อยใช้ได้ เสร็จแล้วเราก็กลับ รร. เพื่อจัดกระเป๋า เพราะเราต้องเดินทางกลับวันรุ่งขึ้นไฟลท์ประมาณตี 4 กว่าๆ รร.ดีขนาดนี้แต่ได้นอนแปปเดียวเอง ฮือๆๆ
สรุปโดยรวมทริปนี้ทำให้ผมประทับใจกับประเทศจีนมากขึ้นเยอะทั้งความเจริญและความสวยงาม ของบ้านเมือง และที่สำคัญอาหารอร่อยด้วยครับ ถ้าสำหรับผมที่ชอบที่สุดคือ คณะละครสัตว์ “Chime-Long International Circus” ใครมาต้องมาดูให้ได้นะครับ และสุดท้าย ขอขอบคุณทั้งคุณบลู คุณน้ำ ทีมงานไทยสไมล์ที่ดูแลพวกเราเป็นอย่างดี กินหรูอยู่สบายไทยสไมล์ฟลูเซอร์วิสจิมๆ และขอบคุณทีมไกด์ของพี่ฉัตรกับพี่ตู้เย็นกับไกด์จีน คงจะหาไกด์ที่ ทน อึด ตลก รอบรู้ และดูแลดีอย่างนี้ได้ยากยิ่ง หวังว่าจะได้เจอกันอีกนะครับ ชอบทริปนี้มากๆครับ ไว้เจอกันใหม่นะทุกคนนนนนน
#thaismileairways #บินตรงภูเก็ตกวางโจว #บินสบายแบบฟูลเซอร์วิส #ภูเก็ตกวางเจาเอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม