คิดอะไรไม่ออก อยากเที่ยวใกล้ๆบ้าน แต่ฟิวเหมือนอยู่ยุโรป และมันก็กลายมาเป็น ตู้มม!!! ทริปมาเก๊า!!! ต้องบอกเลยครับว่ามันอลังการงานสร้างมากๆ เดินไปทางไหนก็ได้ฟิลลิ่งเหมือนเดินเที่ยวอยู่ที่ อิตาลี สเปน แบบนั้นเลยครับ
– และนี้คือตารางการเดินทางของทริปนี้ –
Day 1
– Landing 1.45 (Macao time)
– Check in at The Landmark Macao 3.00 PM.
– Walk around Senado Square
– Ruins of St Paul’s – ถ่ายรูปวิวเมืองตอนดึกจากมุม Namvan Lake
Day 2 – มื้อแรกที่ Chan kong kei
– Sky walk Macao tower (เดิน 360 องศา)
– Roman amphitheatre (ถ่ายรูปโคลอสเซียม)
– Food festival at Macao tower (เทศกาลอาหารเอเชีย) –– Ruins of St Paul’s ตอนดึก
Day 3 (ฝั่ง Taipa)
– Travessa da Paixão (ตรอกแห่งคู่รัก) –– Check in at studio city (รร.ในธีม Gotham city)
– พักเล่นสวนน้ำของโรงแรม – – Parisian Macao eiffel tower (ถ่ายรูป) –– Walk around Venetian hotel
– นั่งเรือ Gondola ride Venetian
Day 4
– Walk around Studio city – – นั่งชิงช้า No.8 (ที่โรงแรม) – Batman dark flight 4D
– Wynn palace ดูโชว์น้ำพุ –– Back to Bangkok 22.40
– ค่าใช้จ่ายตลอดทั้งทริปแบบละเอียด (สกุลเงินเป็น HKD $ นะครับ) –
Day 1 – ซื้อซิม5day 100 $
– โรงแรม 2คืนแรก 1,700
– มาเก๊าพาส 130
– ค่าข้าวร้านบะหมี่เกี๊ยว 122
– ซุปเปอร์มาเก็ต 23
– เซเว่น 26
– ลูกชิ้น 45
– ค่ารถ 2 รอบ 4
Day 2
– ค่าข้าวมื้อแรก 117 $
– ค่าน้ำ 14.4 – Sky walk 670
– ค่าล็อกเกอร์ 30
– มื้อเย็น Food festival 205
– ค่าเซเว่น 50.5
– ค่ารถบัส 13.5
Day 3
– เติมpass 50 $
– ค่าข้าวมื้อแรก 68
– ชาเขียวเย็น 30
– พุดดิ้ง 67
– ค่าห้อง studio city 1,034 – Gondola ride 90
– MacDonald 56
– ข้าวหน้าเนื้อ 60
– ซุปเปอร์ฯ 60
– เซเว่น 71
– ค่ารถบัส 6
– Taxi 41
Day4 – Batman 4D 112 $
– MacDonald 64
– ทาร์ตไข่+ชานม 60
– นมร้อน 18
– ข้าวเย็น 221
– ค่ารถบัส 7
– น้ำเปล่าที่สนามบิน 10
ปล.ที่เป็นค่าข้าวกับที่พักจะเป็นราคาสำหรับ 2 คน นะครับ
ตกคนละประมาณ 11,000 บาท
– ข้อควรรู้ก่อนไปมาเก๊า –
- มาเก๊าเป็นเกาะเล็กๆ ซึ่งที่เที่ยวจะมี 2 ฝั่ง คือ ฝั่ง มาเก๊า(Macao) กับ ไทปา(Taipa)
ฝั่งมาเก๊า >> ส่วนใหญ่จะเป็นแนวชุมชนเยอะๆ สถานที่ประวัติศาสตร์เยอะหน่อย
ฝั่งไทปา >> จะเป็นฟิวแบบมีแต่ โรงแรมหรูๆ สวยงาม Landmark ก็จะมีแต่ตรงตามโรงแรมต่างๆ อยู่เรียงติดกัน สามารถเดินหากันได้ง่าย
- การเดินทางหลักๆจะเป็นรถบัสครับ ควรซื้อบัตร Macao pass จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้พอสมควรเลยครับ เพราะทุกๆครั้งที่ขึ้น จากปกติ 4$ กว่า ก็จะเหลือ 2$ กว่า และบัตรยังสามารถใช้ซื้อของใน 7-11 หรือ ร้านต่างๆที่มีเครื่องหมาย Macau pass อยู่ด้วย เรียกได้ว่าเหมือนเราเติมเงินใส่บัตรไว้ ละก็ใช้ ปี๊บๆ เอา สะดวกง่ายมาก
การทำ Macao pass >> ผมทำที่ 7-11เลยครับ 130$ แบ่งเป็นเงินในบัตร 100$ มัดจำ 25$ (สามารถรับคืนได้ตอนคืนบัตร) และ 5$ เป็นค่าทำบัตรครับ (ไม่ได้คืนนะ)
การคืนบัตร >> สามารถคืนได้เฉพาะที่ Macao pass center ซึ่งจะมีแต่แค่ฝั่ง Macao ยังไงก็วางแผนดีๆนะครับ ไม่งั้นก็ทิ้งฟรี 25$
ส่วนการเดินทางในมาเก๊า >> ง่ายดายมากๆครับ สามารถใช้ App Google map ได้เลยครับ จะขึ้นเลขรถบัสที่สามารถขึ้นไปสถานที่ต่างๆได้อย่างง่ายดาย รถบัสก็มีมาถี่มากๆ รอไม่นานเลย
พร้อมแล้วเรามาลุยกันเลยดีกว่า !!!
.
.
– Day 1 : เดินทางสู่มาเก๊า –
ผมใช้บริการของ Air Asia บินตรงสู่มาเก๊าเลยครับ ผมเลือกไฟท์ บินตอน 10.20 – 13.00 น. (ซึ่งเวลาที่มาเก๊าจะ +1 จากบ้านเรา) มาถึงสนามบินคือสะดวกรวดเร็วมากครับ ตรง ตม.ไม่ต้องเขียนอะไรเลย ยื่น passport เป็นอันจบ สนามบินก็เล็กๆ ไม่ต้องเดินไปไหนเยอะ ออกมาถ้าใครงง สับสน ทางนี้เลยครับ
Tourist Information Center
อันนี้เป็นโซน Shuttle bus ฟรี สำหรับไป รร.ต่างๆ ใครที่จองที่พักไว้ตามป้ายที่มีอยู่ก็ติดต่อตรงนี้ อยู่ตรงทางออกหลังจากผ่าน ตม. เลยครับ
ตรงจุดนี้โต๊ะข้างๆจะมีขาย Sim อยู่ครับ และผมก็ได้ซื้อ Sim ที่นี้ เป็น Unlimited 5 days ราคา 150$ HK ลองคำนวณละมันก็แพงกว่าซื้อ Simใช้เน็ตต่างประเทศบ้านเราอีก ผมเลยไม่เอาละเดินจากมา แต่ตามเสต็ปครับ ทันใดที่เราเดินออก Say no เค้าก็เรียกเรากลับไป บอกลดให้เหลือ 120$ ผมเลยบอกไปว่า 100$ ok or bye bye 5555 สรุป ก็ได้มาในราคา 100$ ถือว่าได้อยู่ครับ 🙂
โรงแรมที่ผมจะพักที่มาเก๊าก็คือ Landmark Macao (อยู่ฝั่ง Macao) ซึ่งจะไม่มีรถบัสฟรีรีบส่งสนามบิน จะมีฟรีรับส่งแค่ที่ ท่าเรือที่จะมาจากฮ่องกง นะครับ ทาง Tourist information center ก็แนะนำให้นั่งรถบัสไปลง ท่าเรือ 4.5$ ละต่อรถฟรีจากทางโรงแรม แต่เนื่องจากผมทำการบ้านมาอยู่บ้างเลยไปขึ้น Shuttle bus free ของโรงแรม Wynn macao ซึ่งจะอยู่ห่างจาก Landmark macao นิดเดียวเอง จะเสียตังค์ทำไม อิอิ
ตามป้ายนี้ไปเลยครับ
ลานจอดรถ Shuttle bus ขึ้นฟรีครับ
ให้มายืนรอตรงป้ายนี้เลยนะครับ จะมีพนักงานยืนอยู่ ก็บอกเค้าว่าไป Wynn Macao นะครับ มันจะมี 2 Wynn เช็คดีๆนะครับ
ใช้เวลาไม่นานประมาณ 10 นาทีก็ถึงที่พักแล้วววววว Landmark Macao
ทำการ Check in ไม่นานครับ อยากเห็นห้องพักแล้ว ^^
คือที่พักหรูหรา อลังการสุดๆครับ ห้องนอนกว้างใหญ่มากเลย
ห้องน้ำก็จะหรูไปไหนเนี่ยยยย ตกแต่งด้วยหินอ่อน สีขาวดำ ตัดทองหรูไปอีก!!!!
หลังจาก Check in เรียบร้อย แพลนวันนี้เราจะไปลุยรอบๆ Senado square เป็นเหมือนจุดศูนย์รวมนักท่องเที่ยวของที่นี้ และก็ไปชม ซากโบสถ์เก่า Ruins of St Paul’s แต่ก่อนอื่น ไปซื้อบัตร Macaopass ก่อนนะครับ
ได้มาแล้ว พร้อมแล้ว!! ลุยเลย
ถึงแล้ว Senado square บรรยากาศชิวมากๆ นักท่องเที่ยวเยอะเลยครับ ร้านช้อปปิ้งเยอะมาก นึกว่าอยู่ Siam Discovery บ้านเรา
ถ่ายรูปเสร็จก็เดินไป Ruins of St.paul กันเลย ซึ่งอยู่ห่างจาก Senado square ไม่ไกลครับ ระหว่างทางก็เดินดูของไป เงินในกระเป๋าก็สั่นๆไป555 ร้าน Shopping เยอะมากๆ
เดินไม่นานอ้าว..ถึงแล้ว เด่นตระการมาแต่ไกลเลยครับ ดูคลังมากๆ
คนเยอะมากๆครับ เดี๋ยวไว้มาแอบถ่ายตอนดึกวันหลัง คนน่าจะน้อยกว่า เดี๋ยวมาลุ้นกัน อิอิ
Ruins of St.paul เป็นโบสถ์ที่หลงเหลือเพียงซากด้านหน้าของอาคาร สร้างขึ้นเมื่อปี 1580 โบสถ์แห่งนี้ถูกไฟไหม้ 3 ครั้ง จึงหลงเหลือเพียงกำแพงทางเข้าโบสถ์ด้านหน้าเท่านั้น ในปี 1991 ก็ได้มีการบูรณะครั้งใหญ่ขึ้นอีกครั้ง จนเห็นกำแพงโบสถ์ที่สวยงามในปัจจุบัน
เสร็จแล้วเราก็กลับมาที่ Senado square ต่อครับ เพื่อมาโดนร้านเกี๊ยวกุ้งที่เราเล็งไว้ก่อนหน้านี้ เพราะเห็นคนเข้าคิวรอกันเลยทีเดียว
หมูแผ่นคนมุงแน่นตลอดเวลาจริงๆครับ ของขึ้นชื่อที่นี้เลย
พอเรามาถึงเข้าคิวไม่นานก็ได้โต๊ะละครับ เพราะว่ามาแค่ 2 คนจะได้ไวกว่าคนอื่นหน่อย อิอิ ส่วนเมนูภาษาอังกฤษจะมีไม่เยอะนะครับ เหมือนจะมีแต่ทีเด็ดของร้านที่คัดมาให้แล้ว แต่ราคานี้แอบแพงใช่ย่อยเลยครับแหละ
ไม่รู้จะกินอะไร เห็นเค้าว่าที่นี้เมนูดังคือ บะหมี่เกี๊ยวกุ้ง เลยจัดไป 2 ชามเลยครับ ละก็ของทานเล่น 1 จานเป็นเกี๋ยวกุ้งทอด
มาแล้ว!!! บะหมี่เกี๋ยวจุ้ง!!! รสชาติต้องขอบอกเลยครับว่าไม่ผิดหวัง ยิ่งใครเคยไปจีนแล้วกินอาหารจีนจะรู้เลยว่า อย่าไปขาดหวังกับอาหารจีนมาก แต่นี้คือแบบ เห้ยย กลมกล่อม หอม อร่อย เส้นบะหมี่ก็บางๆ แต่เหนียวหนึบ อร่อยเลยครับชามนี้
ของทานเล่น..เกี๊ยวกุ้งทอด 5 ชิ้น พอจานมาวางเท่านั้นแหละครับ มองหน้าพร้อมกันเอิ่มมมม…. จะกินหมดไหมเนี่ย ใหญ่มากกกกกก!!!
ตัวแป้งผมเฉยๆเลยครับไม่ได้ไม่อร่อย แต่ก็ขอไม่ทานดีกว่า5555 ตัวไส้ในเกี๊ยวกุ้งคือเยี่ยมสุดๆเลย น้ำจิ้มก็ผ่านครับ (ลิ้นแต่ละคนไม่เหมือนกันอยากรู้ต้องมาลองเองนะครับ)
กินเสร็จอิ่มอร่อยกันไป เดินออกมาจากร้านก็มืดแล้ว >< แต่ก็ได้รูป Senado square ตอนเปิดไฟไปด้วย สวยไปอีกแบบ ก่อนกลับที่พักแวะเดินเล่น ถ่ายรูปวิวเมือง ตรงริม Nam van lake ต่อสักหน่อย
โรงแรมนี้อลังการมากๆเลย Grand Lisboa
อากาศหนาวกำลังดีเลยครับ มากับแฟนยิ่งเยี่ยมไปเลย แต่เวลามีลมมาก็จะไม่ไหวหน่อยอะนะครับ ยังไงเช็คอากาศก่อนมากันดีๆนะครับ คืนนี้ลากันไปด้วยภาพนี้ละกันครับ วิวเมืองจาก Nam van Lake
– Day2 : ฉันจะบิน –
วันนี้ครับ เราจะพาไปเสียวกันกับกิจกรรม Skywalk 360° @Macao tower แต่ก่อนอื่น กองทัพต้องเดินด้วยท้องครับ เราจะพาไปกินข้าวหน้าเป็น ข้าวหมูกรอบ และ ข้าวมันไก่กันครับ ร้านนี้มีชื่อว่า “Chan kong kei “
เป็นร้านขึ้นชื่อของย่านนี้เลยครับ ร้านเล็กๆแต่ คนเยอะมาก มีแค่ 1 ชั้น ร้านแบบ ธรรมดาบ้านๆเลย แต่คนต่อแถวรอกินกันตลอดเวลา พอมาถึงร้านสงสัยวันนี้จะโชคดีครับ รอคิวไม่นานก็ได้กินแล้ว
เรามา2 คน แต่ต้องนั่งกับใครอีกไม่รู้ 2 คนครับ เพราะโต๊ะเล็กจะนั่งได้ 4 คน ทางร้านมันไม่ได้ใหญ่มาก เค้าก็จะให้นั่งกันแบบนี้เลยครับ
โต๊ะก็เล็ก แถมนั่งกับใครก็ไม่รู้อีก 5555
ส่วนเมนูภาษาอังกฤษ มีให้เลือกเยอะมาก คนรับ order ก็มายืนกดดันเรา เราก็ไม่รุ้จะสั่งอะไรกินกันดีตอนนั้น เพราะมันเยอะเหลือเกิน ทันใดนั้น เด็กรับ order ก็บอกว่า Kow moo dang ?! Kow mun Kai ?! Kow nha ped ? Kow moo krop?! ผมนี้ยิ้มเลยครับ สบายเลย5555 สั่งง่ายละ ฟังภาษาไทยออกด้วย
รอไม่ถึง 5 นาทีอาหารก็มาแล้วครับ
ไม่มีน้ำจิ้ม หรือ เครื่องเคียงใดๆทั้งสิ้น แต่รสชาติบอกเลยว่า ผ่าน!!!!!!!!! อร่อยหมดเลยครับ ติดอย่างเดียวคือส่วนเนื้อด้านล่างของ หมูกรอบ จะเค็มมากๆนะครับ ระวังไตเสียเลยทีเดียว ผมกินคำเดียว ฉีกส่วนล่างออกทุกชิ้นเลยครับ 5555
ระหว่างนั่งกินคนก็ยืนรอเข้าคิวกันไม่ขาดสายเลยครับ
อิ่มอร่อยกันไปมื้อนี้ กินเสร็จแล้ว..ไป!! ไปลุย Sky walk กันครับผม
โรงแรมระหว่างทาง อดถ่ายไม่ได้จริงๆครับ สวยงามสุดๆ
ถึงแล้วววว Macao tower ลงจากรถบัสเสร็จให้เดินเข้าไปในตึก และเลี้ยวขวา ลงบันไดเลื่อน 2 ครั้ง ก็ถึงทางขึ้นไปด้านบน Macao tower
อันนี้คือราคา หน้าเคาท์เตอร์ครับ แต่ผมได้ทำการจองล่วงหน้าผ่านทาง Klook เลยได้ราคาถูกกว่าครับ 670$/คนหลังจากได้บัตร Sky walk เดินไปตามทางโค้งเลยจะเจอทางเข้ายื่นบัตรให้พนักงาน เดินเข้าไปอีกจะเจอจุดถ่ายรูปมีพนักงานถ่ายรูปให้ เสร็จแล้วขึ้นลิฟต์ไปชั้น 61 เลยครับ พนักงานข้างล่างบอกชั้น 61 แต่เข้าไปไม่มีเลข 61 บอก เลยจิ้มไปปุ่มบนสุด
ถึงแล้วววว และนี้คือทางเดินที่เราจะออกไปเดินกันนะครับ เหงื่อออกเท้าแล้วววว ยึ้ยยยยยยยย ><
ให้เดินไปที่จุด Registration จะเจอพนักงานเค้าจะให้ใบจดชื่อ วันเดือนปีเกิด อีเมล์ และให้เสือสีส้มคนละ 1ตัว
เสร็จแล้วก็ไปเปลี่ยนเสื้อ ถอดนาฬิกาเครื่องประดับทุกชนิด และของใช้ส่วนตัวใส่ล็อกเกอร์ให้หมด ออกมาแต่ตัว กล้องก็ไม่ต้องนะครับ เพราะตอนเราออกไปเดินจะมีพนักงานอยู่ด้วยคอยถ่ายรูปให้
ค่า Locker 30$ ครับ
เสร็จแล้วก็ไปเตรียมตัวใส่อุปกรณ์ Safety ก่อน ใส่เสร็จรอพนักงานมาเรียก ตอนเล่นจะได้ไปเป็นกลุ่มครับ พนักงาน1คนจะดูแล2-8คน ต่อรอบ ใช้เวลาในการทำกิจกรรมนี้ประมาณ 30 นาที
ปะ พร้อมเล่นแล้วครับ
ระหว่างยืนรอกลุ่มนี้จบรอบ บอกเลยครับว่าใจนี้เต้นตุ้มๆต่อมๆ เลยทีเดียว
หลังจากพอได้ก้าวขาออกไปแตะลานข้างนอกที่จะต้องเดินวนรอบๆ360องศา บอกเลย หวั่นมากกก อากาศก็เย็นลมแรงอีก ขาสั่นกันไปเลยจ้าาา
พนักงานพาเดินไปนิดนึงให้หยุดถ่ายรูป ด่านแรก…ให้นั่งบนทางเชื่อมพื้น คือเป็นพื้นที่แบบเล็กๆ เหมือนจะไม่น่ากลัว แต่เสียวมากกก ด่านแรกก็ขาสั่นแล้วจ้าา
ไปต่อด่านที่2 ทีมงานก็ให้ไปยืนตรงขอบๆทางและเอนไปด้านข้าง จะยกขาก็ได้ บอกเลยว่าถ้าไม่อยากเสียวอย่ามองลงไปข้างล่าง พยายามมองตรงเข้าไว้ เดินแบบค่อยๆกระดึบๆเข้าไป555
ไปต่อด่านที่3 ให้นั่งตรงขอบทางห้อยขาลงไปข้างล่าง นี่ก็เสียวใช่ย่อยจ้า ตอนจะนั่งมันจะรู้สึกหวิวๆแบบบอกไม่ถูก ในหัวอดคิดไม่ได้จริงๆว่าถ้าตกลงไปไม่รอดแน่นอน><
ไปต่อด่านสุดท้ายแล้ววว ให้เอนหลังไปข้างนอก โอ้วแม่เจ้าาา !!!! อันนี้พีคสุด เสียวสุดเลยครับ เพราะความรู้สึกคือเหมือนเราจะตกแต่มีสลิงดึงอยู่ เหงื่อแตกกันเลยทีเดียวทั้งๆที่อากาศก็หนาว ลมก็แรง
เสร็จแล้วก็ถ่ายรูปรวมกลุ่ม (ถามรึยังว่ารู้จักกันไหม 555) มีถ่ายวีดิโอนิดนึงด้วยนะก่อนออก เสร็จแล้วรอพนักงานเอาแฟลชไดร์รูปภาพที่ถ่ายเราทั้งหมดมาให้เป็นที่ระลึกเลยครับ สามารถเช็คไฟล์รูปได้ที่คอมพิวเตอร์ตรงทางเข้าออก ส่วนเสื้อกับ Flash drive ที่ให้มาก็ได้กลับไปด้วยเลยเพราะรวมอยู่ในแพ็คเกจที่ซื้อมาแล้ว
มีบัตร Member มาเล่นครั้งหน้าก็จะถูกไปหลายบาทเลยแหละครับ ครบ 3 ครั้ง ครั้งที่ 4 ฟรีด้วย!
สีหน้าของคนรอกำลังโดด บันจี้จั๊ม
ยังไงถ้าใครอยากทำกิจกรรมอื่นๆด้วย ที่ Macao tower ก็มีให้ทำนะครับ แล้วแต่จะเลือกเลยครับ สรุปแล้วรวมๆ คือสนุกดีนะครับ ตื่นเต้นมากกกกก !!! ได้ลองอะไรเสียวๆมันก็ท้าทายไปอีกแบบ เผลอๆผมว่าเสียวกว่ากระโดด บันจี้จั้มอีกครับ ><
เสร็จภารกิจ Macao tower แล้วก็ไปต่อกันที่ Roman Aphitheater กันเลย
Roman Aphitheater เป็นสไตล์ สนามรบ โคลอสเซียม ของอิตาลี ตรงนี้ไม่ได้ใหญ่โตมากครับ มาถึงก็ถ่ายรูป รัวๆกันไป
ด้านในน่าจะมีโชว์แสดงด้วยนะครับ แต่เหมือนยังทำไม่เสร็จดี
บรรยากาศ ถ้าใครมาช่วงเย็นแบบผมคือชิวมากๆเลยครับ เพราะจุดนี้จะอยู่ติดกับทะเลเลยครับ
เดินไปเรื่อยๆ ติดๆกันก็จะมีเหมือนเป็น Avenue ใหญ่ๆ แต่เหมือนยังเสร็จไม่ดีครับ ร้านก็ยังเปิดกันไม่ครบเลย อนาคตน่าจะเป็นอีก 1 ที่เที่ยวเดิน Shopping เลยครับ
เดินมาทั้งวันแล้วท้องเริ่มร้องละครับ 5555 เราไปกินข้าวเย็นกันดีกว่าเนอะ ^^
วันนี้มื้อเย็นมาจบที่ Food festival หน้าตึก Macao tower ครับ ที่นี้จะอารมย์เหมือนกันงานวัด+ตลาดรถไฟบ้านเรา มีร้านขายอาหารเยอะมากๆ มาจาก ญี่ปุ่น ไทย เวียดนาม เกาหลี มาหมด สมชื่อ Food festival จริงๆ ซึ่งผมก็ไม่ได้แพลนที่จะมาเลย พอดีเห็นตอนมาเดิน Sky walk เลยบอกกับแฟนว่า เดี๋ยวดึกๆกลับมากินที่นี้กัน ซึ่งก็ไม่ผิดหวังครับ จัดงานดีมากๆ ใครได้มาช่วงนี้ก็จะฟินๆหน่อย (สิ้นเดือน พฤศจิกายน) เพราะ เทศกาล X’mas ก็ใกล้เข้ามาแล้ว ตกแต่งไฟ ก็สีสันสวยงามทั่วเมืองเลยครับ
การซื้อของกินที่นี้ ต้องทำการแลกคูปองใช้แทนเงินสดก่อนนะครับ แลก 100$ จะได้ ฟรีอีก 5$ (สำหรับเล่นเกมส์เท่านั้นนะครับ)
ได้คูปองมาแล้ว พร้อมกินละครับ ^^ แต่ก็เลือกอยู่นานมาก เพราะร้านอาหารคือเยอะมากๆๆๆๆๆๆ ครับ
ร้านนี้คนต่อคิวกันเยอะสุดละครับ
ข้าวกระเพราก็มาแฮะ 55555 แต่แพงนะครับ 40$ ก็ตกประมาณ 160 บาท
สรุปมาจบที่อาหารที่เราคุ้นเคยกัน สลัดผักห่อเป็นคำ,ผัดไททะเล และต้มยำกุ้งครับ 5555
ร้านชาร้านนี้คนต่อแถวซื้อ ขอลองดูสักหน่อยละกัน (ผมว่าพอๆกับบ้านเราเลยครับ 555)
ปิดท้ายด้วยเนื้อย่าง ถือเดินทานเล่นครับ ^^ กินอิ่มแล้วเดินไปโซนเล่นเกมส์กันดีกว่าครับ
หลังจากยืนเลือกอยู่นานว่าจะเล่นเกมส์อะไรดี เพราะหลายๆเกมส์คือเหมือนเอาเงินไปทิ้งแน่ๆครับ สรุปมาจบที่เกมส์ตกปลา ง่ายๆเลยครับ วัดดวงเอาอย่างเดียวว่าจะได้ของรางวัลไหม 5555
และคุณแฟนผมก็ดวงดีมาก!! ได้เจ้าตุ๊กตาน้อยมา 1 ตัว ส่วนผมแห้วจ้าาา ไม่ได้อะไรเลย 5555
สนุกมากครับ ฟินสุดๆเลย เหมือนมาเดินงานวัดแบบหรูๆ อากาศก็หนาวเย็นสบายกำลังดี 17 องศา งาน Food festival Macao จัดงานดีมากๆเลย ร้านอาหารก็เยอะมากๆครับ ตรบมือให้ผู้จัดงานเลยครับ
วันนี้ก่อนกลับที่พักผมลองแวะ Ruins of St.paul ดูอยากรู้ว่าตอนกลางคืนจะมีเปิดไฟไหม ปรากฏว่า…… แถ่แด้ม!!!! ไฟเปิดครับ ฟินไปเลย คนก็น้อย แถมได้ฟิวแบบ ต้องมนต์ขลังสุดๆ!! คืนนี้ลากันไปด้วยภาพนี้เลยละกันนะครับ
– Day 3 : Move to Taipa –
วันนี้แพลนเราต้องย้ายไปฝั่ง Taipa พักที่โรงแรม Studio city กันครับ Check out แล้วก็ฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมเนื่องจากเราสามารถเช็คอินที่พักได้หลัง 15.00 เราเลยจะไปแวะกินข้าวเที่ยงแถว Senado square และไปถ่ายรูปที่ Travessa da paixão และแวะชิมพุดดิ้งนมสดชื่อดังกันก่อนบอกลาเกาะฝั่งมาเก๊า
วันนี้เราไม่ได้แพลนร้านที่จะกินไว้ กะว่าจะเดินไปเรื่อยๆ ร้านไหนดู Local หน่อย คนมุงเยอะๆหน่อย นั้นแหละ พุ่งเข้าร้านเลย และแล้วก็มาเจอกับร้านนี้ครับ Macao Hou Keng Fan
อยู่ตรงตรอกระหว่างทางเดินไป Travessa da paixão ร้านนี้ดีหน่อย มีข้าวแกงให้เลือกมากมาย รวมถึงอาหารประจำของที่มาเก๊า ข้าวหมูแดง หมูกรอบ หน้าเป็ด และข้าวมันไก่
ร้านนี้คือ Local สุดๆเลยครับ ไม่มีภาษาอังกฤษเลย และก็ตลอดเวลานั่งกินก็ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเลยเช่นกัน มีแต่คนทำงานแบบชาวบ้านๆ
การตักข้าวแกงของพี่แกต้องบอกเลยครับว่า จะให้เยอะไปไหน!!! จานของผมนี้ยังดีนะครับ ไม่ได้ล้นเวอร์ แต่จากที่ยืนๆดูคือแบบ เอิ่มมม…กินยังไงให้ไม่หกอะ 5555
มาแล้ววววววววว ขอตัวกินก่อนนะครับ ^^
สรุปเลยครับร้านนี้ผ่าน รสชาติดีเลย ราคาไม่แพงมากด้วยครับ(ถ้าเทียบกับร้านดังๆ)
หลังจากกินอิ่มแล้ว ขอไปถ่ายรูปที่ตรอกคู่รัก Travessa da paixão ก่อนนะครับ ตรอกนี้จะอยู่ติดกับซากโบส์ถ St.paul เลยครับ หันหน้าเข้า St.paul จะอยู่ด้ายซ้ายมือเลยครับ
ตรอก Travessa da paixão นี้จะเป็นที่นิยมของคู่รัก เป็นตรอกเล็กๆที่มีความหมายตามภาษาโปรตุเกสว่า ความรัก ทำให้มีคู่รักนิยมมาถ่ายรูปพรีเวดดิ้งกับบริเวณนี้ จึงเป็นที่มาของชื่อตรอก นอกจากนี้ยังถูกใช้เป็นฉากในการถ่ายทำภาพยนต์ต่างๆด้วย
ถ่ายรูปเล่นกันมันส์เลยครับ ตอนที่มาคนน้อยพอดีเลย กระโดดกันไปหลายช๊อตเลยแหละ ^^ เสร็จแล้วก็เดินกลับ ระหว่างทางเดินกลับเราได้แวะเข้าไปดูด้านในโบสถ์นึงครับ เดินผ่านมาหลายรอบแล้ว เลยขอเข้าไปเช็คข้างในกันหน่อยละกัน
เจ้าโบสถ์นี้มีชื่อว่า St. Dominic’s ครับ
ด้านในกว้างขวาง เข้าไปแล้วรู้สึกได้ถึงความสงบจิต สงบใจ เหมือนเราเดินเข้าวัดไทยเลยครับ ตกแต่ออกแบบก็ตามสไตล์ยุโรป สวยงาม
และแน่นอนครับก่อนกลับไปเอากระเป๋าที่โรงแรมตามที่บอกเลยครับ พุดดิ้งนมสดร้านขึ้นชื่อของที่นี้ จัดไป จาก Senado square ถ้าหันหลังให้กับ Senado ให้เลี้ยวขวาเดินไปประมาณ 300 เมตร ร้านจะอยู่ฝั่งตรงข้ามนะครับ
ถึงแล้ววววววว เอิ่มมมมม อ่านไม่ออก 5555
ร้านนี้เมนูภาษาจีนล้วนนนนนเลยครับ T T พนักงานก็พูดอังกฤษไม่ได้อีก เอาละวะ จิ้มเอาเลยละกัน ได้มาเป็นแบบร้อนกับเย็นอย่างละถ้วย
สรุปแล้ว ผมแนะนำพุดดิ้งร้อนนะครับ ตอนสั่งก็ไม่ยาก บอกเค้า Hot hot เลยครับ รสชาติจะออกหวาน ละมุนมากกว่ากินแบบเย็นครับ ส่วนราคาก็กลืนน้ำลายไป 1 เฮือกครับ >< ทำใจครับ หลังจากกินมาหลายมื้อแล้ว ค่าอาหารมาเก๊าถือว่าแพงใช้ได้เลยนะครับ
หลังจากกินเสร็จแล้วก็กลับมาเอากระเป๋าที่โรงแรมเดิน จากนั้นก็เดินไปขึ้น Shuttle bus ฟรี ของทางโรงแรม Studio city ตารางเวลาและสถานที่ที่สามารถขึ้นรถฟรีของทางโรงแรมทางลิ้งค์นี้เลยครับ http://www.studiocity-macau.com/en/contact-us#shuttlebus ไปโรงแรม สะดวกสบาย ง่ายดายมาก
ถึงแล้ว!!!!! Studio city เจ้า โรงแรมเลข 8 มันจะยิ่งใหญ่อะไรขนาดนี้
เดินเข้ามาโอ้โห!!!! นี้มันห้างชัดๆ มีแต่แบรนด์หรูๆ ชั้นนำของโลก
Check in เสร็จ พร้อมได้บัตรกำนัลมา 200$ **ใช้ได้เฉพาะเครื่องเล่นและกิจกรรมเฉพาะในโรงแรมเท่านั้น(ผมทำการจองผ่าน booking.com ราคาที่พักมาพร้อมบัตรกำนัลตั้งแต่แรกอยู่แล้วครับ)**
ผมได้ห้องชั้น 11 วิวกำลังดีเลย ห้องพักใหญ่โต สบายมากๆ แถมได้ฝั่งวิวเห็นสระน้ำอีก (อย่าเรียกสระ เรียกสวนน้ำเถอะถ้าจะใหญ่ขนาดนี้ ^^ )
ไม่รอช้าครับ สวนน้ำ เอ้ย!! สระน้ำน่าเล่นขนาดนี้ หนาวแบบนี้น่าจะยังพอไหว เปลี่ยนชุดทันที! ลุยครับ555 สระน้ำทำดีมากๆ ปรับอุณภูมิน้ำให้อุ่นๆด้วย แถมมีบ่อจากุชชี่ร้อนให้ด้วย โอ้ยยย!! ฟิน เสร็จแล้วเราก็เดินไปโรงแรม Venetian กันครับ เพราะเรามีนัดนั่งเรือ Gondola ที่ Venetian กันคืนนี้ สวีตๆหน่อย 😉
แต่กว่าจะถึงบอกเลยครับ หยุดถ่ายรูปบ่อยมากๆ!! โรงแรมแต่ละที่คือตกแต่ง ออกแบบก่อสร้างได้โหดจริงๆครับ หอไอเฟลก็มา ใหญ่ต่ออลังการสุดๆ ต่างกันมากเลยระหว่างฝั่งMacao กับ ฝั่ง Taipa
เย้ถึงสักที Venetian
เข้ามาด้านใน อือหือ!!! หรูไปไหนเนี่ย ><
ห้องน้ำอย่างหรูเลยครับ
ถึงแล้ว Gondola ride นึกว่าอยู่อิตาลี !!! โอ้โห้วววววววววว
เราได้ทำการซื้อตั๋วล่วงหน้าไว้แล้วจากเว็ป Klook.com มาถึงจุดขึ้นเรือก็เดินเข้าไปในร้านนี้เพื่อแลกเป็นตั๋วขึ้นเรือง่ายๆเลยครับ
จุดนี้ใช้เวลารอไป 30 นาทีเลย เนื่องจากวันที่ผมไป พนักงานพายเรือมีน้อย เลยสามารถใช้งานเรือได้แค่ 2 ลำพร้อมๆกันเองครับ เลยต้องรอนานหน่อย แต่มาทั้งทียังไงก็ต้องลองนั่งดูครับ ได้บรรยากาศมากๆ วิวก็สวย พนักงานก็พายดี มีร้องเพลงให้ฟังด้วย เสียงดีมากๆเลย นั่งเถอะ Gondola ride คุ้ม!!
เรือนี้จะออกมาใช้งานเฉพาะวันชาติของจีนเท่านั้นครับ
พี่พนักงานพายเรือของเรือ ร้องเพลงสีดีสุดๆเลยครับ
พนักงานพายเรือผู้หญิงก็มานะครับ
ในแม่น้ำนี้จะมีเหรียญอยู่เต็มไปหมดเลยครับ ผมถามพี่พนักงานพายเรือว่าทำไมมีเหรียญเยอะจังเลย คนโยนลงไปทำไมเหรอ เค้าบอกว่าเป็นความเชื่อว่า ถ้าใครมานั่งเรือแล้วโยนเหรียญขอเกี่ยวกับความรักจะได้สมปรารถณากันครับ อันนี้ก็แล้วแต่ความเชื่อเนอะ 🙂
นั่งเรือเสร็จแล้วใช้เวลาไป 10 นาทีเองครับ เดี๋ยวไปเดินเล่นถ่ายรูปรอบๆกันต่อละกัน
เสร็จสิ้นภารกิจวันนี้ ก่อนนอนแวะถ่ายรูปโรงแรมมุมนี้ (อยู่ชั้น 3) เสียดายเลนส์เก็บได้ไม่หมด ไว้ใครมาเผื่อเลนส์ Wide ไว้ด้วยนะครับ
– Day 4 : Last day –
หือๆๆๆ ทำไมต้อง Check out ก่อน 11.00am รีบตื่นเก็บของ Check out พร้อม ฝากกระเป๋าไว้ที่ โรงแรม (สามารถฝากไว้ได้ทั้งวัน ไม่เสียตังค์ครับ) เที่ยวกันต่อละกัน วันนี้ Flight บินกลับของเราตอน 22.40 เที่ยวได้อีกวันสบายๆเลยครับ
วันนี้ผมจะพาทุกคนไปขึ้นชิงช้าที่สูงที่สุดในโลกกันครับ มันก็คือเจ้าเลข 8 ของเรานั้นเองครับ มันคือชิงช้า!! ผมนี้ยอมใจคนคิดกับคนสร้างเลยจริงๆ ตารางวันเวลา ปิด-เปิดตามนี้เลยครับ
วันจันทร์-อาทิตย์ 12.00-20.00 น.
วันศุกร์-เสาร์ 11.00-21.00 น.
มาถึงทางขึ้นรอไม่นานเลยก็ได้ขึ้นแล้วครับ1 แคปซูลจุได้ 10 คนนะครับ แต่ตอนผมมา คนมันไม่เยอะครับ ทีมงานให้นั่งแยกได้เลย ใครมา 2 มา 3 หรือมา 1 ก็ให้แยกคนละแคปซูลเลย ดีจุง
ตอนแรกไม่คิดว่าจะเสียว ชิวๆ ผ่าน Skywalk Macao tower มาแล้ว แค่นี้จิบๆ แต่พอไปยืนตรงพื้นกระจกและมองลงไปข้างล่างเท่านั้นแหละ !! โห้ยยยยยย เสียวเฉย!!!5555 ขาแอบสั่นเล็กน้อย เพราะมันสูงจริงๆครับ แต่วิวก็สวยเช่นกัน ห้ามพลาดๆ
เสร็จแล้วมาต่อกันที่ Batman 4D กันเลย 1 รอบจะใช้เวลาเล่นประมาณ 30 นาที นะครับ เดินเข้าไปก็จะมี VTR ให้ชมเล่าเรื่องก่อนว่าเป็นมายังไง เกิดอะไรขึ้น ดำเนินเรื่องถือว่าเยี่ยมเลยครับ กระชับ ไม่นานมากก็ได้เข้าไปนั่งเครื่องเล่นจริงๆแล้ว
เครื่องเล่นนี้เราจะเป็นอารมย์อยู่ในยาน Batman เคยช่วยเหลือเมืองจากพวกตัวร้าย ถ้าใครเป็นพวกชอบเล่นเครื่องเล่นตระกูล 4D บอกเลยว่า ไม่ผิดหวังครับ ส่วนใครที่ไม่เคยเล่นพวก 4D มาก่อนก็มาลองเถอะ ทำดีมากครับ สนุก เสียวด้วย กลิ่นเอย น้ำเอย เอฟเฟคจัดเต็ม
หลังจากเล่น Batman 4D เสร็จแล้วเวลาเหลือเยอะเลยครับตอนนี้ ไม่รู้จะทำอะไรเลยลองค้นหาข้อมูลในเน็ตดู ละก็ไปจบที่ร้าน Lord Stow’s ท๊าตไข่ ซึ่งจะอยู่ส่วนล่างของเกาะ Taipa หรือเรียกว่าส่วนของฝั่ง โคโลอาน (Coloane village) ครับ นั่งรถบัสไปแค่ 15 นาทีก็ถึงครับ จากเครื่องเล่น Batman ก็ให้เดินออกทางประตูด้านหลังตรงข้างล่างของเครื่องเล่นได้เลยครับ เดินตรงไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็เจอป้ายรถบัส ยังไง ลองหาดูใน Google map คำว่า Lord Stow’s Taipa ดูนะครับ
มาถึงแล้วววว ลงป้ายรถบัสเดินไปทางริมทะเล ยังไงก็เจอร้านครับ เพราะคนเดินเข้า ออกร้านตลอด มีรถจอดลงแวะซื้อตลอดเลยครับ (ในรูปผมนั่งรอนานอยู่ครับ กว่าจะได้ภาพไม่มีคนหน้าร้าน 555)
ผมได้ลองจัดมา 1 กล่อง กินกับแฟนฟินๆกันไปครับ รสชาติอร่อยดีเลยครับ เนื้อคือนุ่มเด้ง เยี่ยมเลย!!
น้ำชานมแบบ Local มากๆครับ แต่รสชาติ Inter สุดๆเลย
เดินมาอีกนิดตรงหัวโค้งจะเจอกับ Lord Stow’s Cafe ด้วยนะครับ เป็นแนวร้านกาแฟสด กับพวกข้าวเช้า
ได้รางวัลด้วยนะยูว์ สดๆใหม่ๆเลย 2017
กินเสร็จลองเดินเลียบริมทะเลไปเรื่อยๆ ก็ไปเจอกับโบส์ถสีเหลือง หน้าตาสวยงาม
ด้านในเล็กมาๆครับ แต่ก็มีคนแวะมาเยี่ยมชมกันตลอดเลย
วิวด้านนอกก็ติดริมทะเลเลยครับ
เดินมาต่อ ข้างๆจะเป็นห้องสมุดสาธราณะเล็กๆ น่ารักมากเลย
เสร็จภารกิจ นั่งรถบัสกลับโรงแรมแปปๆ ก็เริ่มมืดแล้ว เวลาผ่านไปเร็วมากๆ ค่ำนี้มีนัดดูน้ำพุที่หน้า Wynn palace Hotel เดินไปจาก Studio city ก็ไม่ได้ไกลมากครับ แต่ก็แอบเมื้อยนิดๆ แล้วแต่สะดวกเลยนะครับ
ระหว่างทางเดิน ขอกับเจ้าหอไอเฟลนี้อีกสัก 1 รอบ ^^
เย้ ถึงแล้ว Wynn Palace Hotel
เดินมาถึงโชว์น้ำพุเริ่มพอดี นั่งดูเพลินเลยครับ มีเปิดเพลงระหว่างโชว์ด้วยครับ
อือหืออออ ฟินไปเลย Wynn Palace Hotel
ด้านในเดินอ้อมลานน้ำพุเข้ามาดู Lobby ก็ตกแต่งสวยหรูสุดๆ ยอมใจโรงแรมที่นี้จริงๆครับ สวยทุกที่เลย
Lobby โรงแรม Wynn Palace Hotel
ยอมความใส่ใจทุกรายละเอียดของโรงแรมที่ Macao จริงๆครับ หรูทุกมุมจริงๆ
จริงๆผมตั้งใจจะมาดู Show มังกรกับต้นไม้ที่โผล่ขึ้นมาจากพื้นด้วยนะ แต่พอสอบถามแล้ว สรุปว่า มันอยู่ฝั่งมาเก๊าครับ เป็น Wynn Macao แป่ววววว แห้วรับประทานเลย พลาดเอง
กลับสู่โรงแรมของเรา รอขึ้นรถ Shuttle bus ฟรีจองทางโรงแรมไปสนามบิน
—————————————————————————————–
จบแล้ว ทริปมาเก๊า 3 คืน 4 วัน สรุปโดยรวมกับการมามาเก๊าครั้งแรกของผมต้องบอกเลยว่า นี้เหรอ “Macao” เกาะเล็กๆที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมทางยุโรป โบส์ถอันเก่าแก่ดูมีมนต์ขลัง บ้านเมืองก็เจริญ ตกแต่งสวยงาม หรูหราอลังการทุกที่ เดินทางก็สะดวกมีรถบัสหลายสายไปทุกที่ราคาไม่แพง จะไปเปลืองก็ตรงค่าข้าวนี้แหละครับ
สำหรับใครที่ใฝ่ฝันอยากไปเที่ยวยุโรปแต่ไม่ได้มีงบเยอะ แนะนำเลยครับ มาเก๊าคือคำตอบของคุณแน่นอน รออะไรละครับ จองตั๋วเครื่องบิน จัดกระเป๋าไปลุยเลย