South Africa Together
หากพูดถึงในประเทศในฝันของผมเลย 1 ในนั้นคือประเทศแอฟริกาใต้ เพราะอะไรหน่ะหรอ ผมเชื่อว่าคนอายุแบบ 20 อัพ ตอนเด็กๆ น่าจะได้ดู 1 ในหนังการ์ตูนที่ทำรายได้เยอะติดอันดับโลก นั่นคือ The Lion King แม้แต่เพลงยังติดหูถึงปัจจุบัน อย่างท่อนที่ร้องว่า ……….นาาาาาาา ซิเพ่นยา บาบากี ชีวาวา หรือแม้แต่ ฮาคุน่ามาทาทะ
นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม แอฟริกาใต้ เลยกลายเป็นประเทศในฝัน เพราะว่าฉันอยากไปเห็นบ้านเกิดซิมบ้าไง
และเป็นโอกาสดีมากๆ ที่สายการบิน Qatar Airways จะได้พาเราไปเที่ยวเมือง Durban ประเทศ แอฟริกาใต้
หลายคนอาจจะไม่คุ้นชื่อเมืองนี้เท่ากับ โจฮันเนสเบิร์ก หรือ เคปทาว แต่เดอร์บัน เป็นเมืองตากอากาศของ แอฟริกาใต้ เป็นที่ที่อากาศดีติดทะเลมีคนจากทุกมุมโลกมาโต้คลื่น มีซาฟารีให้เราตามล่าหา Big 5 อีกด้วย
เรียกได้ว่าเป็นอีกที่ ที่ครบเครื่องของจริงถ้าไปแล้วจะเจอ เวทมนต์ที่ทำให้ต้องอยากกลับไปอีกครั้ง แต่วันนี้จะไม่ได้รีวิวค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นเพราะสายการบิน Qatar Airways พาเราไปเที่ยวนั่ง Business Class ตลอดทริป แต่ข้อมูลนี้มีประโยชน์กับคนอยากออกไปเปิดโลกแน่นอน ถ้าพร้อมแล้ว ก็ไปด้วยกันเลย
Durban Go Together
ความฟินอีกอย่างนึงของทริปนี้ การที่เราได้เดินทางด้วย Business class บนเครื่องบิน 3 แบบของ Qatar Airways คือเรียกได้ว่านั่งแบบสบายเหมือนอยู่ปลายสายรุ้งเลย เพราะเราเดินทางต้องมีการต่อเครื่องด้วย โดยเริ่มจากบินจาก สุวรรณภูมิ ไปลงยัง เมือง โดฮา ประเทศกาตาร์ก่อนประมาณ 7 ชม และเปลี่ยนครื่อง เพื่อเดินทางไป ลงแอฟริกาใต้ อีกประมาณ 8-9 ชม. และรอพักเครื่องต่อเพื่อไปลง เดอร์บันได้เลยอีกแค่ 45 นาที จริงๆผมว่าการเดินทางไกลหากนั่งเครื่องบินดีๆ จะช่วยทำให้เราไม่ค่อยเหนื่อยเท่าไหร่ ไปถึงไม่ต้องฟื้นฟูอะไรมากแบบว่ามาถึงแล้วเที่ยวได้เลย
ท่าอากาศยานนานาชาติโดฮา
มาต่อเครื่องที่ โดฮาอย่าลืมมาถ่ายรูปกับ หมียักษ์(รึเปล่า) เป็น 1 ใน landmark ของสนามบินเลยแหละ ความเจ๋งอีกอย่างคือสนามบินที่นี่ดีเว่อร์ๆ สวยอลังกาลมาก
อีกจุดที่เราชอบที่สุดคือ lounge ของ business เรียกได้ว่ามีครบทุกอย่าง อาหารหลากหลาย กาแฟ บาร์ แม้แต่ห้องอาบน้ำ คือใช้ชีวิตอยู่ที่นี่เลยก็ได้ 555 
เปลี่ยนเครื่องอีกรอบแล้ว อย่างที่รู้กันที่นั่งอันนี้ยืดได้ 180 องศาคือฟินมาก แล้วสั่งไวด์มาจิบพร้อมดูหนังเรื่องโปรดบนเครื่อง สบายเหมือนอยู่บ้าน บริการเหมือนอยู่วัง
ในหลายๆเที่ยวบินที่ไป จะเจอแอร์คนไทยด้วย ข้อดีคือคุยกันรู้เรื่องอยากได้อะไรบอกได้หมด อาหารบนเครื่องก็ดูดีสมฐานะ Business นั่งกันยาวๆก็ยังรู้สึกสบายๆ 
ช็อกโกแลต โกดิว่า ก็มีให้กิน
เย้ สุดท้ายก็มาถึงแล้วสนามบิน King Shaka ประเทศแอฟริกาใต้
วันนี้เราพักที่โรงแรมนี้ซึ่งอยู่ติดกับชายหาดเลย จะบอกว่าที่นี่จะมองเห็นดวงอาทิตย์ใหญ่มาก และที่สำคัญคลื่นที่นี่สูงมาก ไม่แปลกใจว่าทำไมนักโต้คลื่นถึงเดินทางมาที่นี่กันมากมาย
วิวจากห้องนอนเรา เรียกได้ว่าเป็นการมาพักผ่อนอย่างแท้จริง สมกับเป็นเมืองตากอากาศชื่อดัง
Welcome to Zulu Land
จบจากคืนแรก พักผ่อนกันอย่างดีแล้ววันนี้เราจะเดินไปที่ หมู่บ้าน Zulu ซึ่งเป็นชนเผ่าดั่งเดิมของ แอฟริกาใต้ ซึ่งหลายๆคนคงเคยได้ยินชื่อมาบ้างแหละ ความตื่นเต้นของมันคือเราเคยดูแต่ในสารคดีไงแต่วันนี้เราจะได้เห็นของจริงกันว่าหน้าตาเป็นยังไง ซึ่งสมัยก่อนนี้ชนเผ่านี้ถูกจัดให้เป็นชนชั้นที่ 2 ของแอฟริกาใต้โดนเหยียดอย่างรุนแรง แต่ปัจจุบันชาวซูลูเป็นชนเผ่าที่เป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ และมีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกับประชาชนทุกเชื้อชาติแล้ว
นั่งมาซักพักก็มาถึงที่นี่ ตรงนี้เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้เราสามารถมาเยี่ยมชมได้เลย 
ก่อนอื่นเราต้องมาชมการแสดงพื้นเมืองของชาวซูลูก่อน ตรงนี้คือวิวนึงที่เราผมชอบมาก เพราะมันได้ฟิว แอฟริกาใต้ จริงๆ อารมณ์เหมือนที่ประชุมประจำเผ่าของหมู่บ้านในยุคนั้นเลย
เริ่มการแสดงได้ จะบอกว่าทุกคนจัดเต็มมากทั้งเต้นและแสดง ที่สำคัญดูพวกเค้ามีความสุขกับสิ่งที่ทำมาก ผมว่าซักครั้งเราควรจะมาเห็นอะไรแบบนี้ด้วยตาตัวเอง
รอยยิ้มพิมใจ
ไปดูแบบเคลื่อนไหวดูบ้าง
มาดูเดบิว ศิลปินใหม่แอฟริกา #southafrica #durban#qatarairways #Durbantogether #goingplacestogether
โพสต์โดย Panupat Sukanlayaruk บน 15 มีนาคม 2017
เสร็จจาก โชว์ก็จะดูความเป็นอยู่ของชนเผ่า อย่างคนนี้ที่เห็นคือ Shaman ถ้าจำได้ผิด อารมณ์แบบผู้ทำพิธีเชื่อมต่อกับวิญญาณหรือพวกสิ่งลี้ลับทั้งหลายที่เป็นความเชื่อของเชื่อ ของชาว ซูลู
ถัดจากนั้น อารมณ์ก็เปลี่ยนทันทีครับ เพราะข้างมี ฟาร์มจระเข้!! และไม่ใช่จระเข้แบบที่ไทยนะ จระเข้ที่นี่คือตัวใหญ่มากกก ย้ำว่ามากๆ เหมือนที่เราเคยเห็นในหนังเลย คือพีคมากถ้าลงไปนี่ไม่น่าจะเหลือแม้แต่กระดูก และมันจะมีโซนให้เราซื้อ แฮมเบอร์เกอร์เนื้อจระเข้แล้วเดินเข้าในนั่งกินในสวนที่มีจระเข้ได้อีกด้วย ที่นี่เรียกว่า Fear Challange ทดสอบความกลัวคือ จระเข้หน่ะไม่กลัวหรอกแต่ฉันกลัวโดนกินมากกว่า สรุปกรุ๊ปเราไม่มีใครกล้าลองนะจ๊ะ 
นอนแช่น้ำสบายใจ
นอกจากเข้ ก็มีน้องเต่าตัวใหญ่ที่เราเดินเข้าไปจับได้เลย แต่ผมไม่ค่อยกล้าเท่าไหร่เคยเห็นว่าเต่ากัดโหดมาก
อีกัวน่าตัวใหญ่ยักษ์ก็มา 
จะมีอีกโซนนึงที่รวบรวมงูพิษเอาไว้อยู่ในตู้ต่างๆ บางตัวก็ดุมากแค่แตะกระจกก็พ่นพิษใส่ทันที อารมณ์แบบถ้าหลุดไปได้ละก็พวกเอ็งโดนแน่เจ้าพวกมนุษย์โลก 
เราแวะทานมื้อเที่ยงที่นี่ ซึ่งด้านหลังเป็นสวนองุ่นไว้สำหรับทำไวด์ด้วย
และมาต่อกันอีกที่ ตรงนี้ใครที่ชอบประวัติศาสตร์ต้องชอบแน่ๆ เพราะที่คือ Capture site ที่ใช้กุมขัง Nelson Mandela ต้องบอกว่าคนนี้เป็นเหมือนฮีโร่ของชาวผิวสี เพราะได้ลุกขึ้นมาต่อต้านการเหยียดผิวในแอฟริกาใต้ ที่เมื่อก่อนมีแบ่งแยก แยกแม้กระทั้งโซนไหนผิวสีไหนอยู่ได้ไม่ได้ และโดนขังอยู่ที่นี่ 30ปี !! ที่นี่จึงเป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ เล่าประวัติตั้งแต่เด็กจนถึงวันที่เป็นฮีโร่และเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก 
เดินทะลุมาด้านหลังจะเจออีกโซนที่ต้องมาถ่ายรูป โดยตรงนี้เค้าจะเอาแท่งเหล็กมาเรียงๆ สูงๆ และ ถ้ามองถูกมุม จะเห็นหน้าของ เนลสัน ด้วย
พอตกกลางคืนเราก็มากันที่ ย่านในเมืองเดอร์บัน จริงๆต้องบอกว่า เดอร์บันก็ถือว่าเจริญมากบางคนอาจจะจินตนาการว่าแอฟริกาใต้ ต้องเป็นๆป่าๆ แต่ไม่ใช่นะโซนป่าๆก็มี แต่โซนที่เป็นเมืองก็เหมือนน้องๆอเมริกาเลย 
คาลามีลี มีน้องแนะนำให้กินบอกว่าอร่อยแล้วมันก็อร่อยจริงๆ 
Get Closer Hippos and Crocodiles
วันนี้ออกเดินทาง ออกจากตัวเมืองแล้วเดี๋ยวเราจะย้ายไปนอนในป่าด้วย แต่อันนึงที่เรารอคอยมากคือการ ล่องเรือ ในแม่น้ำ แอฟริกาใต้ ที่ในนั้นมีทั้ง จระเข้ ฉลาม และ ฮิปโป น่ากลัวทุกตัว 555
แวะปั๊มก่อนระหว่างทางจะบอกว่า ขนม น้ำหรือกาแฟของที่นี่จะรสชาติ หวานมาก เรียกได้ว่าหวานเกิน มาตรฐานแบบที่เราๆกินกัน เพราะฉะนั้นก่อนท่านจะสั่งอะไรที่นี่ แนะนำเลยว่าให้บอกไปเลยว่าไม่เอาหวาน
ไกด์ที่พาเราเดินทางมา หน้าตาเหมือน คนทำสารคดีทางดิสคัพเวอรี่เลย 
ถึงแล้วครับที่นี่เดี๋ยวเราจะได้ล่องเรือกันแบบ ธรรมชาติจริงๆ 
และแน่นอนเรามากับ สายการบิน Qatar Airways ทั้งที เรือของเราต้อง Private สิครับ 
ส่วนคนนี้คนขับเรือ ระหว่างทางก็จะให้ความรู้เราไปเรื่อยๆ และแวะพาไปดูจุดต่างๆ ที่มีเหล่าสิ่งมีชีวิตอยู่ แต่เวลามาดูอะไรพวกนี้ก็ขึ้นอยู่กับดวงด้วยว่าจะได้เห็นรึเปล่า เพราะที่นี่มันเป็นสัตว์ที่อยู่ตามธรรมชาติจริงๆ
เจอแล้ววจ้า ฮิปโป หิวแล้วววววววววววววววว
จะบอกว่า ฮิปโป เป็นสัวต์ที่เราเห็นเยอะที่สุดที่นี่ อยู่กันแบบครอบครัวและที่สำคัญชีวิตมันชิวมาก เพราะมันนอนแช่น้ำทั้งวัน ละตื่นมาก็กินต้นหญ้าแถวนั้นเลย เราลองคิดถึงชีวิตที่นอน อยู่บ้านพักตากอากาศแล้วแช่น้ำนอนทั้งวันแล้วมีอาหารอยู่รอบๆตัวสิ ไม่มีชีวิตไหนจะน่าอิจฉาเท่าฮิปโปแล้วหล่ะ
นี่เป็นนกอีกชนิดที่อยู่ตามธรรมชาติหล่ะ แต่จำชื่อไม่ได้ละ
แถวนี้มีสัตว์พวกนี้ทั้งหมดแต่เราไม่เห็นนะ 
หลังจากนั้น เราเดินทางกันต่อ ไปยังที่พักซึ่งในที่พักเป็นเขตซาฟารีเลย โดยรอบๆจะมีคนแต่งชุดทหารบวกกับมีรั้วไฟฟ้ากันอยู่รอบๆ 
หน้าที่พักเรามีตัว แอนทิโลป เลยหน้าจาคล้ายกวางกลัวคนนิดๆแต่ไม่ถึงกับมาก
ที่พักเราจะอยู่ในป่าเลย หน้าห้องพักบนต้นไม้มีลิงเต็มไปหมด เค้าบอกเลยว่าอย่าเผลอเปิดห้องไว้ไม่งั้นลิงจะเข้ามาขโมยของคิดดูสิ ใกล้ชิดธรรมชาติขนาดไหน 
ชิวมากๆ เลยมองออกไปเห็นวิวป่าเขา ลำเนาไพร
ตั้งกล้องเอง ถ่ายเอง เผลอเอง นี่คืองานระดับมืออาชีพ 5555 
สวนด้านหลังที่พัก จะเป็นบ่อ จระเข้ มีให้เรานั่งชม มีการป้อนเนื้อลงไปให้ชมด้วย สะใจวัยรุ่นมากที่นี่
และแล้วเราก็มาถึงกิจกรรม ที่เรียกว่า Game Drive เพื่อขับรถเข้าไปในป่า แอฟริกา เพื่อดูสัตว์ป่ากัน 
นี่ไงหล่ะเข้ามาปุ๊ปเจอปั๊ป 
อยู่กันเป็นฝูงเลยอะ 
ต้องบอกว่าเป็นโมเม้นที่ชอบมากอากาศเย็นๆ บนรถซาฟารี แล้วลุยเข้าไปเจอสัตว์พวกนี้ที่อยู่ตามธรรมชาติ 
สมาชิกทริปเรา 8 อภินิหาร ที่เห็นนี่คือ ไปไงมาไง , Don’t magazine และ น้องมายจาก Qatar airways
ม้าลายน่ารัก มองหน้าเรานานมากก่อนจะเดินหนีไป
แล้วก็มีการจอดแวะลงไปถ่ายรูปพร้อมกับคนขับของเราเอาเบียร์เย็นๆ ออกมาให้กินในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน
นี่คือโมเม้นที่ดีมากๆในชีวิต รสชาติเบียร์มันอร่อยขึ้นมาก เพราะสถานที่ เพราะคนที่ไปด้วย เพราะบรรยากาศ
โอ้ยฟินมาก
อันนี้แคมเปญเพื่อนก็มา 555 
ลาบรรยากาศดีๆไปด้วยภาพนี้ มันเป็นโมเม้นที่เราควรสัมผัสสักครั้งในชีวิต 
มือเย็นที่นี่ก็อร่อยนะ เจ๊ๆเค้ามาทำให้เรากินกัน
Game Reverse
เมื่ออยู่ในซาฟารีแถวที่พัก แต่วันนี้เราออกกันแต่เช้าเพื่อ Game Drive ของจริงเพราะเราจะไปใน อุทยานที่เรียกได้ว่าใหญ่ที่สุด ของแอฟริกาใต้
ชอบป้ายนี้ ให้ระวังช้างมาขวิดรถ 555 
นี่คือผู้ที่จะปกป้องเราจนปลอดภัย
แล้วเราก็ได้เจอ 1 ใน big 5 ที่มากันเป็นฝูงเลย 
ม้าลายเซ็ทนี้จะไม่ค่อยกลัวคน คือเดินเข้ามาใกล้ๆเลย 
ต้องบอกว่าการมา ตามล่าดูสัตว์ป่าที่นี่เราต้องมาตอนเช้ามืดเพราะว่าเป็นเวลาที่มันออกหากิน ถ้ามาเวลาอื่นอาจจะไม่ค่อยได้เจอเพราะบางพวกมันอาจจะหลบตามพุ่มไม้ หรือไม่ก็นอนหลับขี้เกียจอยู่ เพราะฉะนั้นช่วงเข้าเป็นเวลาที่ดีที่ดีที่สุดที่เราจะมาดูกัน แต่ต้องบอกว่าไม่ใช่ว่าไปตรงไหนก็เจอนะ มีสัตว์หลายๆตัวที่เราเจอแต่แบบแอบอยู่บ้างไม่ได้เห็นเต็มๆ เช่น สิงโต แรด คือเห็นหลบตามพุ่มไม้ต่างๆ ส่วนรอบนี้ เราไม่เจอบิ๊ก 5 อีก 2 ตัวเลยคือ เสือดาว กับ ช้าง
( big5 มี ช้าง สิงโต เสือดาว แรด ควายป่า )
น้องแรด แต่ขี้อายไม่ยอมออกมาไล่ขวิดกันเลย 
มาถึงสัตว์ที่ตัวสูงที่สุดในโลก จริงๆน่าจะเรียกว่าคอยาวมากกว่า ยีราฟตัวนี้มาเดี่ยวๆ และดูไม่ค่อยที่จะกลัวคนเท่าไหร่พี่เค้าเล่นเดินตัดผ่านหน้ารถไปเลย เหมือนมาเดินแบบโชว์แล้วบอกอ่ะถ่ายรูปซะ 
และหลังจากที่เรา ได้วนจนครบ 4 ชม.กว่ากับการผจญภัยในอุทยานสวมวิญญาณ แบร์ กิล เราก็กลับมาที่พักแล้วเก็บของเพื่อเดินทางกลับไปที่ เดอร์บัน อีกครั้งส่วนภาพนี้คือน้องลิง ที่อยู่หน้าห้องพักของเราเอง 
หลังจากหลับแล้วหลับอีกก็มาถึง เดอร์บันแล้ว และที่นี่คือที่พักชิคๆที่เราจะนอนกันคืนนี้
ส่วนตัวชอบที่นี่นะ มันมีความกันเองกับความเท่ๆสบายๆดี แต่จริงๆต้องบอกก่อนว่าที่นี่เค้าแนะนำว่าไม่ควรออกไปเดินมั่วๆตอนดึกๆ เพราะอาจจะไม่ปลอดภัยเนื่องจากเราเห็นหลายๆบ้านมีรั้วไฟฟ้าเลยด้วยซ้ำ อาจจะเป็นเพราะยังมีขโมยต่างๆอยู่ในเมืองนี่แหละ 
Durban Beach
หลังจากนอนหลับ 1 คืน ตื่นเช้าพร้อมอาหารเช้าของที่พักที่ดูหน้าตาน่ากิน และรสชาติถือว่าโอเคเลยถูกปากเราอยู่ กินในบรรยากาศท่ามกลางแสงอ่อนๆแบบนี้ มันคือตอนเช้าที่มีความสุขมากๆ
วันนี้เรามาตรงส่วนที่เป็นหาดของที่นี่บ้าง จริงๆแล้วเดอร์บันถือเป็นเมืองตากอากาศที่ดังมากๆ และที่สำคัญมีผู้คนจากทั่วโลกมาเล่นกระโดนโต้คลื่นที่นี่กันด้วย ถ้าให้พูดถึงที่นี่มันให้บรรยากาศเหมือนอเมริกา แต่ว่าอยู่ที่แอฟริกาใต้ใครอยากมาดูหนุ่มกล้ามโต เล่นโต้คลื่นรับรองเลยว่าไม่มีผิดหวังนี่คือเห็นเดินกันเต็มไปหมด
อ่ะของจริงมีเยอะกว่านี้เยอะยังไงมาดูของจริงๆได้ด้วยตัวเองจะดีที่สุด
และอีก 1 กิจกรรมที่ตอนแรกเราเฉยๆมาก แต่พอไปเล่นจริงกลับชิวมากสนุกเพลินที่สุด และผมขอยกให้เป็น
the must ของสิ่งที่ต้องทำที่นี่เลยคือการเล่น segway มันคือเล่น segway ชิวๆไปตามแนวชายหาด ได้ดูผู้คนใช้ชีวิตตีโต้กับลมเย็นๆจากทะเล มันเหมือนขี่มอไซ ชมเมืองแต่เป็นแบบ slowlife ไม่ต้องเร็วมาก แต่เอาบรรยากาศ
และก่อนออกเค้าจะมีสอนเราก่อนว่าเล่นยังไงเอาจริงๆคือมันเล่นง่ายมาก ลองแปปเดียวใครก็เล่นได้เลย
The Oyster Box
และเรามากันที่นี่ The Oyster Box เป็นทั้งร้านอาหาร และ โรงแรม ที่มีชื่อเสียงที่สุดของที่นี่เลย เพราะที่นี่มีบุคคลสำคัญจากทั่วโลกมากันหมดแล้ว อย่างที่บอกข้างในคือทั้งสวย ทั้งอาหารอร่อย และ ที่สำคัญตรงสระว่ายก็ชิวอีกแล้วครับท่าน 
เนี่ยชิวจริง ชอบมากที่เอาสีแดงมาตัดขาว แล้วล้อมรอบด้วยบรรยากาศน้ำทะเล 
อาหารที่สั่งมาที่นี่ ก็มีแต่ระดับพรีเมี่ยมทั้งนั้น ผมแนะนำว่า หากได้มาที่นี่ก็ควรมากินอาหารที่นี่ด้วยเช่นกัน
ลองดูในรูปสิ ว่ามีใครแล้วบ้าง ระดับโลกทั้งนั้น 
และจบจากตรงนั้นเราก็จะออกเดินทางกลับ แต่ก่อนกลับเราจะแวะเที่ยวที่ประเทศกาตาร์ อีก 1 วันที่เมืองโดฮา
นั่งสบายๆ + กินอาหารอร่อยๆ แล้วก็ถึงที่ โดฮา แล้วจ้า
นี่คือโรงแรมที่เราพักที่โดฮาครับ rotana doha hotel จริงๆเรียกว่าไว้พักผ่อนมากกว่าเพราะเราไม่ได้ค้างแต่จะบอกว่าดีและสวยมากๆ
และเราก็แวะมาที่ museum of isalamic art ที่นี่เป็น museum ที่รวบรวมเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของที่นี่สำหรับสายที่ชอบประวัติศาสตร์ ควรมาเพราะเค้าทำได้ดีมาก คือมีหลายชั้นคือสามารถเดินเล่นอยู่ตรงนี้ได้นานเลย
วิวจากด้านข้าง museum เห็นรอบๆเมืองเลย จะบอกว่าวิวโหดมากควรมาถ่ายรูปตรงนี้
หลังจากนั้น เราก็ได้เยี่ยมชมเมือง โดฮา ต้องบอกว่าที่นี่เจริญมาก และคิดว่าคงเจริญมากกว่านี้อีก เพราะเราเห็นจากที่มีอีกหลายๆอย่างที่กำลังก่อสร้างอยู่ คิดว่าในอนาคตในตัวเมืองคงจะมีอะไรให้เราได้เที่ยวชมเพิ่มอีกเยอะมาก
อีกที่นึงที่ชอบ คือตลาดของที่นี่ เพราะมันเป็นตลาดที่สะอาดและมีของขายเยอะ แล้วช่วงนั้นอากาศดีมากทำให้การมาเดินตลาดที่นี่ ชิวมากๆและที่สำคัญคือคนกำลังดีไม่เยอะแยะแออัด
สุดท้ายก็ถึงเวลาที่ต้องกลับแล้วเราก็ทำการเช็คอินก่อนจะขึ้นเครื่องบิน Qatar Airways กลับบ้าน
ความพีคก่อนกลับคือ บนเครื่องด้านหลัง Business class มีบาร์บริการบนเครื่องด้วย แถมมี wifi ให้ใช้อีก อันนี้คือพีคของจริงเรียกได้ว่าผมนี่ สถิตอยู่ตรงนี้ยาวๆเลยทีเดียว 
และแล้วเราก็กลับกรุงเทพ โดยสวัสดิภาพต้องบอกตรงๆ ว่าทริปนี้เป็นอีกทริปที่ประทับใจมาก และผมเหมือนโดน
เวทมนต์ของแอฟริกาใต้เข้าให้ เลยต้องบอกกับตัวเองว่านี่ไม่ใช่ครั้งเดียวแน่นอนที่จะมาที่นี่ เราต้องกลับมาอีกแน่ๆ สำหรับที่นี่ ด้วยอากาศที่กำลังดีไม่ร้อนไม่หนาวเกินไป ผู้คนที่เป็นมิตร ธรรมชาติแบบ lion king ที่เราชอบมาตั้งแต่เด็ก มีทั้งโซนเมือง ทะเล และยังมีประวัติศาสตร์มากมายให้เราได้ศึกษา ที่นี่จึงเป็น 1 ใน the best ของเราไปเรียบร้อยแล้ว และถ้าอยากลองสักครั้ง และบินแบบสบายๆ ต้องขอบคุณ Qatar Airways มากๆทีมีบินมาถึงที่ Durban เลยแล้วเจอกันใหม่ SouthAfrica
